มท.1 เร่งบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ในถนนสายหลัก-สายรอง ช่วงปีใหม่ เชื่อ อุบัติเหตุลด ไม่วิจารณ์ หม่อมอุ๋ย ไม่หนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ โว รู้จักกันมากว่า 40 ปี ยังเชื่อมั่นในตัวบิ๊กตู่ ที่มีความเป็นผู้นำสูง
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า ขณะนี้มาตรการต่าง ๆ ได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ทั้งมาตรการ รณรงค์ให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย สิ่งสำคัญ คือ ไม่ขับรถเร็วและไม่ดื่มสุรา เป็นเรื่องหลักที่จะต้องรณรงค์ในช่วงนี้ ก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ และในช่วงปีใหม่จะเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดทั้งถนนสายหลักและสายรอง ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดพื้นที่เป็นสีแดง และสีส้ม โดยจะเพิ่มมาตรการในพื้นที่ดังกล่าวให้เข้มงวด ซึ่งเชื่อว่า อุบัติเหตุน่าจะลดลงได้ แต่ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ไม่ให้ทุกคนขับรถเร็ว และเมาไม่ขับ อย่างไรก็ตามมองว่ามาตรการทางกฎหมายขณะนี้ไม่เข้มข้นเท่าที่ควร จึงได้เสนอแก้ไข กม.ไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. กำลังพิจารณา คงไม่ทันบังคับใช้ปีใหม่นี้
พลเอกอนุพงษ์ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ กรณีหม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุเหตุผล 8 ข้อที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สมควรที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไป แต่จากการทำงานร่วมกันในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาสมัยเป็นทหาร และรู้จักกันมากว่า 40 ปี ยังเชื่อมั่นในตัว นายกรัฐมนตรี ว่ามีความเป็นผู้นำสูง มีความสามารถ และความตั้งใจ คิดแต่ในสิ่งที่ดี ส่วนที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีให้อำนาจทหารมากกว่าพลเรือน พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องมองว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดวิกฤทางการเมืองอย่างไร ประเทศมีความขัดแย้งจนนำไปสู่ความรุนแรง แต่สิ่งที่ทำให้ คสช. อยู่ได้จนทุกวันนี้ คือประชาชน ไม่ใช่อาวุธ แม้จะมีทหารยืนถืออาวุธตามจุดต่างๆแต่สิ่งที่ นายกรัฐมนตรีใช้ คือ กลไกของทางราชการ ในการบริหารประเทศเท่านั้น
พลเอกอนุพงษ์ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา ช่วงกลางเดือนมกราคม ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้วในการรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วยสนับสนุน กกต. ในการจัดการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่นายอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ไปช่วยพรรคพลังประชารัฐ หาเสียงนั้น ยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้สั่งการให้ส่วนท้องถิ่นไปช่วยกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งได้สอบถามข้อเท็จจริงจากในอำเภอบ้านไผ่แล้ว เป็นการลงพื้นที่ไปทำงาน แต่บังเอิญว่ามีนักการเมืองลงพื้นที่อยู่บริเวณเดียวกัน ไม่ใช่ไปทำงานร่วมกัน ตรงกันข้ามได้กำชับให้ระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้แล้ว โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้ง