กรมศุลกากร เตรียมคุมเข้มบุหรี่เถื่อน ผวาทะลักเข้าไทยหลังกรมสรรพสามิตเตรียมปรับขึ้นภาษียาสูบใหม่ 1 ต.ค.นี้ที่จะทำให้บุหรี่ในประเทศมีราคาพุ่งสูงถึงซองละ 93 บาท
นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบ คุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผย กรมศุลกากร เตรียมเพิ่มความเข้มงวด มาตรการจับกุม การลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะตามด่านศุลกากร ที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
หลังวันที่ 1 ต.ค.นี้ ราคาบุหรี่ในประเทศไทย ทั้งที่ผลิตจากการยาสูบ และบุหรี่นำเข้าจะมีการปรับขึ้นราคาสูงสุดถึง 93 บาท ตามอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยกรมศุลกากร จะมีการตั้งหน่วยข่าวกรอง ด้านการข่าวศุลกากรขึ้น เพื่อใช้เป็นสืบหาข้อมูลข่าวทางลับ มาใช้จับกุมผู้กระทำผิดอีกด้วย
ส่วนกรณีการลักลอบนำบุหรี่โดยชาวบ้าน และ นักท่องเที่ยว แบบกองทัพมดนั้น เกิดขึ้นมานานแล้วปัจจุบันแม้ระเบียบกรมฯกำหนด ให้ถือเข้ามาได้ไม่เกินคนละ 200 มวน หรือ 1 คอตตอน แต่กรมก็พยายามใช้หลักนิติศาสตร์ ร่วมกับหลักรัฐศาสตร์ในการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน และนักท่องเที่ยว หากมีการถือเข้ามามากจะต้องสำแดงเสียภาษีอย่างถูกต้องได้
ด้าน น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย หรือ ยสท. ระบุว่า การขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งนี้ จะทำให้ยอดขายบุหรี่ของ ยสท.ลดลงอีก 50% จากเดินที่ขายได้ 1.8 หมื่นล้านมวนต่อปี
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่าปีงบประมาณ 2561 การยาสูบแห่งประเทศ ไทย มียอดจำหน่ายบุหรี่ทั้งสิ้น 1.85 หมื่นล้านมวน ลดลงจากปี 60 ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ 2.88 หมื่นล้านมวน
ขณะที่มูลค่าการจำหน่ายบุหรี่ในปีงบ 61 มีรายได้กว่า 5.64 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีงบ 60 มีรายได้ 7.54 หมื่นล้านบาท แต่การยาสูบฯ ยังคงมีกำไรสุทธิ 908 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากมูลค่าการจำหน่าย สามารถทำได้สูงกว่าเป้าหมาย 8.4%