พรรคไทยรักษาชาติ ยืนยันความพร้อมของพรรคในการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน พรรคพร้อมยอมรับทุกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตัดสินในวันที่ 7 มีนาคม 2562
นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ร่วมเสวนาในหัวข้อ เปิดวิสัยทัศน์ "Digital economy" สู่แนวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ที่จัดโดย สมาคมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากหลายพรรคการเมือง ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่าง นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ จากพรรคเพื่อไทย และ นายจุติ ไกรฤกษ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม
นายฤภพ ระบุว่า ปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยี มีเฉพาะแค่คนที่อาศัยในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ตได้ และการใช้อินเทอร์เน็ตก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกปัญหาคือเรื่องกฎหมาย อย่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.ไซเบอร์ ที่มุ่งเน้นไปที่ด้านความมั่นคงมากเกินไป ซึ่งไม่เอื้ออำนวยให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน โดยพรรคไทยรักษาชาติ เน้นวิธีคิดแบบ "เทคซิโนมิกส์" ที่มาจากคำว่า Technology sync และ Economics โดยเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดเศรษฐกิจ
ขณะที่ ความคืบหน้ากรณีศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา และลงมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ หรือไม่ ในวันที่ 7 มีนาคม 2562 นั้น ไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร พรรคก็พร้อมน้อมรับคำตัดสิน ส่วนตัวได้พูดคุยกับร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ในเรื่องของคดีความมาตลอด
ส่วนความพร้อมของพรรคในการจัดเวทีปราศรัยใหญ่พื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ ลานคนเมือง กทม. วันพรุ่งนี้ จะนำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้พรรคได้เตรียมความพร้อม และกำลังดูแผนงานว่า พื้นที่ไหนสามารถลงพื้นที่ไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ได้บ้าง หรือ ถ้าไม่ใช่เวทีปราศรัย ก็จะมีการลงพื้นที่อยู่แล้ว แต่ยืนยันว่า จะไปทุกพื้นที่ที่มีผู้สมัครของพรรคอยู่