ผู้หญิงแถวหน้า!! “ปากท้อง-การศึกษา-หยุดขัดแย้ง” คือเป้าหมายสู่การพัฒนา

สำหรับผู้สมัคร ที่ขันอาสาลงสนาม  โดยเฉพาะ“สุภาพสตรี” มีทั้งคนหน้าใหม่ผู้หญิงที่มีชั่วโมงบินการเมืองไม่น้อยด้วย ครั้งนี้จะพาไปฟัง น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  และ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งามรองหัวหน้าพรรคประชาชาติ ว่าเธอจะก้าวเดิน ผลักดัน พัฒนาประเทศชาติอย่างไร? ในมุมมองผู้หญิงแถวหน้า

มาดามเดียร์ ที่คนส่วนใหญ่เรียกติดปาก น.ส.วทันยา กล่าวว่า เมื่อได้ลงมาสัมผัสพื้นที่ ได้เห็นความเป็นอยุ่ของผู้คน และปัญหาต่างๆของประเทศ และความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เป็นแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้สนใจและตัดสินใจมาทำงานการเมืองเพื่อหยุดความขัดแย้ง อยากทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อส่วนรวม และหน้าที่สำคัญคือเป็นกระบอกเสียง มุมมองการเมือง คิดว่าทุกพรรคต้องการยุติความขัดแย้ง ทางออกของการแก้ปัญหานั้น ควรรับฟังเสียงข้างมาก และเคารพเสียงข้างน้อย ตนมองว่าอย่าใช้คำว่าการเมือง แต่ครั้งนี้ควรเป็นจุดเริ่มต้นในการนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า

เมื่อถามว่า สังกัดพรรคพลังประชารัฐ รู้สึกอย่างไรกับการที่แจ้งสังคมว่าพรรคเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ และทำงานบริหารบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน วทันยา “ตอบว่า ควรแยกกันก่อนระหว่างเรื่องของรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐได้รับการรับรองจาก กกต.ในการตั้งพรรค พรรคเป็นการผสมผสานจากผู้คนหลายภาคส่วน บางคนบอกว่าการที่พรรคมีอดีตรัฐมนตรี 4 คนสังกัดนั้น ถือว่าเป็นการเอาเปรียบพรรคอื่น ดิฉันไม่รู้สึกเลยว่าพรรคมีความแตกต่างจากพรรคอื่น พรรคมีความเท่าเทียมและเสมอภาคกับพรรคอื่นๆ พรรคไม่มีแต้มต่อใดๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคะแนนเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย

ถามอีกว่า ช่วงที่ลงพื้นที่ คิดว่าอะไรเป็นโอกาสและอุปสรรค วทันยา ตอบคำถามว่า ความแตกต่างในสังคม ปัญหาปากท้องของประชาชนเพราะประเทศไทยมีฐานของผู้ที่มีรายได้น้อยอยู่จำนวนมากรวมทั้งความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน แต่เท่าที่ลงพื้นที่ทราบว่าประชาชนอยากเห็นประเทศที่สงบสุข พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของได้อย่างสงบ เพราะในช่วงที่ประเทศมีปัญหา สื่อจะมีเรตติ้งสูง แต่รายได้จะกลับตรงข้ามกัน เอกชนไม่กล้าลงโฆษณา เพราะอย่างไรเสียในช่วงความขัดแย้งก็ไม่สามารถขายสินค้าได้

ถามอีกว่า ถ้าได้ตำแหน่งทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง อะไรเป็นสิ่งแรกที่จะทำ วทันยาตอบว่า  ขอพูดในนามพรรค เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนำความสงบมาสู่ประเทศ เมื่อพรรคออกนโยบายไปแล้วก็ต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้ อาทิ สวัสดิการประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความแข็งแรงขึ้น รวมทั้งการสร้างคนและอาชีพ ต้องสอนให้พวกเขามีวิธีหารายได้ให้ตัวเอง

จะฝากอะไรแก่สุภาพสตรีไทยสำหรับการเลือกตั้ง 2562  วทันยาตอบ ”เชื่อว่าผู้หญิงเป็นจุดเริ่มในการเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงมีศักยภาพและมีความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย ตนอยากเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกพรรคที่ตนเองชอบ ตรงนี้เป็นอีกก้าวของการเป็นประชาธิปไตย”

ด้านน.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ที่หายไปจากวงการเมืองช่วง 10 ปี กล่าวว่า  ไปศึกษา ได้มีโอกาสค้นพบนวัตกรรมใหม่ทางการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพราะพบว่าประเทศไทยมีปัญหา นักเรียนที่จบ ม.6 นักศึกษาที่จบปริญญาตรีนั้น พูดภาษาอังกฤษไม่ถูก ดิฉันได้ลงไปที่ภาคใต้ นำนวัตกรรมใหม่ที่คิดได้ไปทดลองใช้ เพราะเด็กๆในภาคใต้มีกำลังสมองที่ดี แต่มีโอกาสน้อย แม้การเมืองจะประกอบด้วยพรรคที่หลากหลาย แต่ทุกพรรคนั้นอยากให้สอบถามประชาชนว่าพวกเขาต้องการอะไร ความมั่นคงทางความรู้สึก และมีศักยภาพในการเป็นตัวแทนราษฎรที่แท้จริง คนการเมืองควรมีน้ำใจนักกีฬา ยอมรับผลแพ้ชนะ

เมื่อถามถึง ความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม มีความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ น.ส.ณหทัย  ตอบว่าทุกฝ่ายควรยอมรับใครก็ได้ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องประชาชนต้องมีสิทธิในการเลือกผู้นำถือว่าเป็นกระบวนการแรกที่ได้จากประชาชนและอีกหนึ่งกระบวนการอยู่ในรัฐสภา

“เราต้องมีจุดยืนว่า ประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ พรรคของเราสนับสนุนประชาธิปไตย ยืนยันว่าพรรคไม่ใช่พรรคแบงก์สิบหรือแบงก์ร้อย เพราะประชาชาติเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกมา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์มาจากเสียงส่วนมาก ก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับการเสนอชื่อ”

น.ส.ณหทัยตอบคำถามถึงโอกาสและอุปสรรคที่เห็นจากการลงพื้นที่ว่า  ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาแรกเพราะประชาชนกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งกับคนอื่นๆในเรื่องการเมืองการแบ่งฝ่ายการประท้วงพรรคประชาชาติเชื่อในเรื่องความแตกต่างและทำอย่างไรให้สามารถแสดงความคิดเห็นออกมาได้อย่างอิสระโดยไม่เกี่ยงกับใคร

ดร.ณหทัย บอกว่า ผลักดันการศึกษาให้ทั่วถึงและเท่าเทียม สร้างศักยภาพให้กับทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อคนมีการศึกษา จะสามารถคิดได้ด้วยตัวเอง และช่วยสร้างอาชีพ อย่างเช่น เด็กๆหากวาดภาพและเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้างอาชีพได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เรื่องการใช้ปัญญาประดิษฐ์และไอทีแม้จะมีโทษอยู่บ้าง แต่ก็ต้องบุกเบิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด

”สำหรับคนที่ก้าวมาในการเมือง ไม่อยากให้ท้อแท้ ให้ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่ง เพราะถ้าการเมืองมีแต่ผู้ชายก็จะมีมุมอีกแบบหนี่ง ซึ่งผู้หญิงมีบางมุมที่ผู้ชายไม่มี อยากให้สนับสนุนผู้หญิงในรัฐสภา และผู้ชายเคารพในความเป็นผู้หญิงด้วย"