รพ.เอกชนฟันหัวแบะ ท้องเสีย 3 หมื่น สธ.สั่งตรวจสอบ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สั่งตรวจสอบกรณีมีผู้ร้องเรียนถูก โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านรามอินทรา คิดค่ารักษาอาการท้องเสีย แพงถึง 3 หมื่นบาท หากพบเรียกเก็บค่ารักษาเกินอัตราที่แสดง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความคืบหน้ากรณี ที่มีญาติผู้ป่วยรายหนึ่ง ร้องเรียนผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ กรณีญาติของตน ถูกโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา คิดค่ารักษาพยาบาลอาการท้องเสีย และอาเจียนสูงถึง 3 หมื่นบาท หลังเข้ารับการรักษา เมื่อช่วงคืนวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุด นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ( สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักสถานพยาบาล และการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ใน 3 ประเด็น
คือ 1.โรงพยาบาลมีการแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ และสิทธิของผู้ป่วยให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ และจัดให้มีจุดสอบถามอัตราค่าบริการหรือไม่ 2.โรงพยาบาลเก็บค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ เกินกว่าที่แสดงหรือไม่ และ 3.แพทย์ผู้ให้บริการ มีการวินิจฉัยโรคเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย
หากพบว่า สถานพยาบาลไม่ติดป้ายแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ และสิทธิของผู้ป่วย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากเรียกเก็บค่ารักษาเกินอัตราที่แสดง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน ทันแพทย์ อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผอ.สำนักสถานพยาบาล และการประกอบโรคศิลปะ ระบุว่าสำหรับปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับอัตราค่ารักษาพยาบาลนั้น บ่อยครั้งเกิดเพราะขาดการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับตัวผู้ป่วย หรือญาติ
ดังนั้นจึงฝากถึงผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ให้กำชับกับเจ้าหน้าที่ว่า ทุกครั้งก่อนจะทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วย หรือญาตินั้น จะต้องสื่อสารทำความเข้าใจในอัตราค่ารักษาพยาบาลให้ชัดเจน มีการชี้แจงรายละเอียดอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้ง เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถตรวจสอบหลักฐานการรักษาพยาบาลในกรณีที่มีข้อสงสัย
