เสี่ยเบนซ์เมาแล้วขับ "วอนสังคมให้อภัย" ลั่น...เลิกดื่มตลอดชีวิต

ความคืบหน้าในการดำเนินคดีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอะไหล่รถยนต์ เจ้าของรถเบนซ์ อี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ที่ขับรถชนรถเก๋ง ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กก3653 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เสียชีวิต พร้อมนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล 44 ปี ภรรยา ที่นั่งมาด้วย ขณะที่ ด.ญ.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยศาลแขวงตลิ่งชัน ให้ทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนแจ้งข้อหา แก่นายสมชาย เพียง 3 ข้อหา ตามที่นายสมชาย ยอมรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนเท่านั้น คือ1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง ได้ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม รองผู้กำกับการ หัวหน้างานสอบสวน พร้อมนัดหมายให้นายสมชาย เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง เพื่อทำการสอบปากคำทำคดีใหม่ เนื่องจากศาลพิจารณาแล้ว ไม่สามารถรับฟ้องในคดีฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

จเมื่อเวลา 12.40 น.นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอ่ะไหล่ยนต์ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม รองผู้กำกับการ หัวหน้างานสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมกับคดีที่เกิดขึ้นพร้อมเผยก่อนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล หรือน้องแพรว อายุ 12 ปี ลูกสาวคนเล็กของพันตำรวจโทจตุพร งามสุวิชชากุล ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

นายสมชาย เปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น คงจะยากที่จะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่สาหัสที่สุดในชีวิต โดยตั้งใจไว้ว่ามีบทเรียนและต้องแก้ไขโดยคิดว่าจะเลิกดื่มไปตลอดชีวิต และพึ่งมาจากโรงพยาบาลไปเยี่ยมน้องที่อยู่ในห้องไอซียู ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้น ทำให้สบายใจไปอีกเปราะหนึ่ง พร้อมขอโอกาส ขอโทษประชาชนกับสิ่งที่ตนเองได้กระทำผิดพลาดไป และหวังว่าจะได้รับการให้อภัยและอโหสิกรรม ยืนยันว่าจะดูแลเด็กทั้งสองคนอย่างดีที่สุด โดยได้รับปากกับทางญาติของผู้เสียหาย จนญาติพอใจ เด็กทั้งสองคน ทั้งคนที่ยังศึกษาต่อที่ต่างประเทศและที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจะส่งเสียให้ถึงที่สุดตามที่ปรารถนา รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง โดยจะทำหน้าที่เสมือนพ่อและแม่ให้กับน้องทั้งสองที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมกันกับการกระทำของตนเองในครั้งนี้