แยกชิ้นส่วนบ้านลอยน้ำได้สำเร็จ ผูกเชือกลากเข้าฝั่ง

ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายเชด เอลวาร์โทวสกี้ กับ ภ นางสาวสุปราณี หรือ นาเดีย เทพเดช สองสามีภรรยา กรณีก่อสร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 14 ไมล์ทะเล

ล่าสุดวันนี้(22 เม.ย. ) พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ และนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการรื้อถอน บ้านลอยน้ำ กล่าวว่า บ้านลอยน้ำอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ปี พ.ศ. 2525 ที่ระบุไว้ว่า เขตเศรษฐกิจจำเพาะอยู่ในเขตอำนาจและสิทธิอธิปไตยของไทย

ขณะที่ อัยการ จ.ภูเก็ต เเละเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจ สภ.วิชิต, เจ้าท่าภูเก็ต, ผู้เชี่ยวชาญทหารเรือ, ทหารบก พร้อมเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา ได้ขึ้นไปตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานภายในบ้าน 8 เหลี่ยมทั้ง ลายนิวมือ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ พร้อม บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จากกองโรงงานฐานทัพเรือพังงา เเละ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือ หน่วยซีล จะทำการรื้อถอน

โดยจะเป็นการแยกชิ้นระหว่างตัวที่พักอาศัยซึ่งเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม กว้างประมาณ 6 เมตร กับส่วนที่เป็นตัวเสา ยาวประมาณ 20 เมตร ก่อนให้เรือหลวงมันใน และเรือหลวงริ้น บรรทุกกลับเข้าฝั่ง ที่ท่าเรือภูเก็ต เพื่อเก็บรักษาวัตถุพยานในการดำเนินคดีกับสองสามีภรรยา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือ โทษสูงสุดคือประหารชีวิต และตามกฎหมายมาตรา 81 ฐานอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องหา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัว พบเพียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ยังอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อวานนี้ เเละคาดว่าจะพยามหลบหนีออกนอกประเทศทางช่องทางธรรมชาติหรือหลบหนีไปยังประเทศมาเลเซีย และใกล้เคียงแล้ว