กกต. ยัน จะคำนวณสูตรส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อย่างรอบคอบหลังศาลรธน.ไม่รับวินิจฉัย

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงผลประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า ตามที่ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าการคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 128 ได้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าทีและอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้นั้น

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวานนี้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 128 ซึ่งจะต้องกระทำหลังจากมีการประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแล้ว

ดังนั้นกกต.จะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการคำนวณสูตรส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หลังการประกาศผลการเลือกตั้ง โดยจะคำนึงถึงวิธีการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 128 ที่สำนักงานกกต.เสนอให้กตต.พิจารณา หรือวิธีคำนวณอื่นๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้จำนวนสมาชิกส.ส.บัญชีรายชื่อได้ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนดไว้

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม มีการตั้งข้อสังเกตุว่ากกต.มีอำนาจในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หลังวันเลือกตั้งได้หรือไม่ ทำไมจึงไม่ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นในวันสมัครรับเลือกตั้งในคราวเดียวกัน กกต.ขอชี้แจงว่า ลักษณะต้องห้าม ณ วันรับสมัคร กกต.จะตรวจสอบได้เพียงลักษณะต้องห้ามที่ข้อมูลอยู่ในความครอบครองของรัฐ ซึ่งมีอยู่ 23 หน่วยงาน แต่ถ้าเอกชนอาจจะยังตรวจสอบไม่ได้ หากภายหลังปรากฎว่ามีลักษณะต้องห้าม กกต.จะดำเนินตามหน้าที่และอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้

ขณะที่กรณีการให้ใบส้ม มีการตั้งข้อสังเกตุว่ากกต.มีคำสั่งให้เลือกตั้งใหม่ และระงับสิทธิของผู้สมัครไว้ชั่วคราว ขอชี้แจงว่า กกต.ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการหาเสียงอันเป็นการกระทำต้องห้าม ในการหาเสียงผู้สมัครให้กับพรรคการเมือง ทำให้พรรคการเมืองไม่มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้กกต.ได้ออกระเบียบไว้ว่า การเสนอเงินให้สถาบันใดๆ ได้กำหนดระเบียบการหาเสียงไว้แล้ว ซึ่งจะกระทำไม่ได้