ปิดสวิตช์ พท.-ลุงป้อมวางมือ?! โดย บอน ณ บางแก้ว

แต่ผ่านไประยะหนึ่งปรากฎว่าบนหน้าสื่อ ยังนำเสนอเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง! โดยลืมนึกไปว่า ในชีวิตจริงมันไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้เลย..ถามว่า “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา”รวมกัน 113 เสียง จะไปรวมกับใคร กี่พรรคถึงจะมีเสียงพอตั้งรัฐบาลได้ อย่างมากบวกกับ 80 เสียงของพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้แค่ 193 เสียง

ต่อให้บวกพรรคเพื่อไทยอีก 136 เสียง ก็ได้เพียง 329 ไม่ถึง 376 เสียงอยู่ดี และคิดหรือว่า ปชป.จะไปร่วมหัวจมท้ายกับ พท.ได้ ดังนั้น ข่าวขั้วที่ 3 ให้”อนุทิน-อภิสิทธิ์” เป็นนายกฯ ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันใด ข่าวปิดสวิตช์ สว.ก็เป็นไปไม่ได้ ฉันนั้น เพราะคงไม่สามารถโดดเดี่ยว พปชร.เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวได้

เว้นแต่จะมีอะไรชนิดที่พิเศษ!? แบบพิเศษจริงๆ เท่านั้น..โดยเฉพาะคำพูดสั้นๆ ของ”เสี่ยหนู” ในวันไปรายตัวที่สภาว่า..ทำไมขณะนี้ยังไม่มีฝ่ายใดฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการเสียที!? ช่วยขีดเส้นใต้คำพูดตรงนี้ไว้สักห้าร้อยเส้น..

เอาเป็นว่า..ในสถานการณ์แบบนี้ “ปิดสวิตช์ พท.” ไม่ให้มีโอกาสได้ตั้งรัฐบาล เป็นไปได้มากกว่า และเป็นไปแล้ว เพราะต่อให้ พท.ยอมคายทุกเก้าอี้ ขอทำหน้าที่เป็นเพียง”นายทวารบาล” เปิด-ปิดประตูทำเนียบฯ อย่างเดียว ก็ไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้..

ส่วนท่าที”เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูร ที่ดูเหมือนจะรักษาระยะทางการเมือง ตั้งการ์ดสูงอยู่ตลอดนั้น มันก็แค่ลีลาพ่อค้าที่ต้องต่อรองให้ถึงที่สุด..แบบเผื่อได้ก็เท่านั้น เพราะในชีวิตจริงของการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มันมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจชนิดแกะไม่ออก ทั้งงานเก่าที่ยังค้างๆ คาๆ อยู่ ไหนจะงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต!!

สรุปทั้งการปิดสวิตช์ สว.ทั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 มันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา “การปิดสวิตช์ พท.”ไม่ให้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล จึงทำได้ง่ายกว่าร้อยเท่าพันเท่า

แต่สิ่งที่น่าคิดตามชั่วโมงนี้ คือ ข่าว”ลุงป้อมวางมือ” ลุงป้อมจะล้างมือในอ่างทองคำจริงหรือ!?

เรื่องนี้หากมองเพียงแค่ต้องการล้างคราบไคลการสืบทอดอำนาจของ คสช.และสารพัดข้อครหา รวมทั้ง ปมนาฬิกาหรู ภาพลักษณ์ต่างๆ ของลุงป้อมแล้ว ดูจะพอมีน้ำหนักอยู่บ้าง..

แต่ในทางกลับกัน อย่าลืมว่าคณะ 3 ป.”ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” เกาะเกี่ยวเสมือนเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันมานาน การจะขาดใครคนใดคนหนึ่งไปในสถานการณ์ที่สงครามยังไม่จบ! คงเป็นไปได้ยาก..ยิ่งเป็นรัฐบาลผสม 20 พรรค ร้อยพ่อพันแม่ ยิ่งต้องมี”ลุงป้อม”คอยเป็นผู้จัดการตัวจริง..

ข่าวการวางมือทางการเมืองของลุงป้อม ที่ตีคู่มากับข้อสงสัยของ”เสี่ยหนู” น่าจะมีความเชื่อมโยงกันอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ลดโทนแรงเสียดทานทางการเมืองลง ส่วนจริงเท็จอย่างไร ยังต้องรอฟังคำตอบสุดท้าย..

เพราะลุงตู่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อลุงป้อม ในวันที่อีกฝายกำลังยืนโต้ลมแรง เผชิญมรสุมอย่างหนัก “เราจะอยู่ด้วยกันทั้งชาตินี้และชาติหน้า”!?

ข่าวลุงป้อมวางมือการเมือง ยังต้องรอคำตอบสุดท้ายแบบท้ายสุดจริงๆ ครับ..