svasdssvasds

นักปีนเขาเสียชีวิตแล้ว 9 รายเหตุยอดเขาเอเวอเรสต์แออัด

ในฤดูกาลพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ปีนี้ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีนักปีนเขาเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 9 คน เนื่องจากจำนวนนักปีนเขามีมากเกินไป ทำให้ใช้เวลารอคิวขึ้นยอดเขานานกว่าปกติ มีออกซิเจนสูดหายใจไม่เพียงพอ

ยอดเขาเอเวอเรสต์อยู่ที่ความสูง 8848 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยปกติแล้ว นักปีนเขาจะสามารถอยู่บนยอดเขาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นหากไม่มีอุปกรณ์ให้ออกซิเจนเพิ่ม และบริเวณนี้เองได้กลายเป็น “เขตตาย” เมื่อมีคนขึ้นไปมาก ทำให้บรรดานักปีนเขาต้องรอคิว

นายโรบิน เฮยส์ ฟิชเชอร์ นักปีนเขาชาวอังกฤษที่เสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมของเขาระบุว่า การที่ทางขึ้นไปยอดของเขามีเส้นทางเดียว และมีนักปีนเขามากจนแออัด ทำให้เกิดความล่าช้าจนนำไปสู่การเสียชีวิต

นายฟิชเชอร์ได้เสียชีวิตขณะลงจากเขาที่ความสูง 8600 เมตรในวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมาจากโรคจากการขึ้นที่สูง

นายเอเดรียน บัลลิงเกอร์ ไกด์ภูเขาบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า การเสียชีวิตนั้นเกิดจากความเหนื่อยล้า เพราะออกซิเจนที่นักปีนเขาเตรียมมานั้นเหลือไม่พอ หลังพวกเขาต้องอยู่บนยอดเขานานกว่าที่คิด และสูดออกซิเจนหายใจมากไป

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นระบุว่า นักปีนเขามักมองว่า สิ่งที่อันตรายที่สุดคือการขึ้นสู่ยอดเขา แต่อันที่จริงแล้วนักปีนเขา 1 ใน 10 เสียชีวิตขณะเดินทางลงจากยอดเขา

ทั้งนี้ จำนวนรวมนักปีนเขาที่เสียชีวิตในฤดูกาลปีนเขานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปีที่แล้ว มีนักปีนเขาเสียชีวิต 5 คน / 6 คนในปี 2560 และ 2559 / หากนับตั้งแต่ปี 2465 ที่เริ่มมีการบันทึกยอดผู้เสียชีวิตจากการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ มีนักปีนเขาเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 200 คน และมีความเชื่อว่า ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังคงถูกฝังใต้หิมะหรือน้ำแข็ง

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งเนปาล ชี้แจงว่า ความแออัดบนยอดเขานั้นไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้นักปีนเขาเสียชีวิต เพราะยังมีเรื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และปัจจัยอื่นๆอีก

การท่องเที่ยวของเนปาลระบุว่ามีจำนวนผู้ขึ้นไปบนยอดเขาในฤดูกาลนี้ 381 คน และช่วงเวลาที่อากาศดีนั้นสั้นลง ทำให้ผู้คนพากันขึ้นไปบนยอดเขาในช่วงเวลานี้มากกว่าที่คาดไว้

สำหรับผู้เสียชีวิตหรือสูญหายขณะนี้ ชาวอินเดีย 4 คน / ออสเตรเลีย 1 คน / อเมริกัน 1 คน /ชาวเนปาล 1 คน อังกฤษ 1 คนและ ไอร์แลนด์ 1 คน

related