จ่อรอ”ผลสรุป” ประกันสังคมรอ เก็บเงินสมทบรายเดือนเพิ่ม - ขยายเวลารักษาวัยเกษียณ

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผยว่า ขณะนี้ สปส.อยู่ระหว่างสำรวจความคิดเห็น มีผลสรุปเบื้องต้น ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสิทธิประโยชน์ในอนาคต

1.เสนอให้มีการปรับเปลี่ยน เงินสมทบสิทธิประโยชน์ตามความจำเป็น  เช่น เข้ามาตรา 33 ถึงอายุ 40 อาจจะครอบคลุมทั้ง 7 กรณีแต่หลังจากนั้น สำหรับผู้ที่ไม่มีบุตร ให้สามารถตัดเงินสมทบในเรื่องคลอดบุตรและสงเคราะห์ บุตร เป็นเงินส่วนอื่นๆ ได้เป็นต้น (อาจเป็นการพิจารณาตามช่วงอายุ)

2.ผู้ประกันตนมาตรา 40 เสนอให้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วย ให้ได้เท่ากับ มาตรา 39 จากเดิมที่จะมีเพียงการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ซึ่งส่วนใหญ่ยินดีที่จะจ่ายเงินสมทบจำนวนสูงขึ้นเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล

3.ควรเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาในช่วงหลังจากอายุ 60 ปีด้วยทั้งนี้อาจตัดเงินส่วนหนึ่งจากเงินชราภาพที่จะได้รับเพื่อนาไปยืดอายุของสิทธิ์การรักษาพยาบาลในส่วนนี้

4.ผู้ประกันตนมาตรา 40 อยากให้เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีต่างๆหากสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น

5.เมื่อผู้ประกันตนถึงกำหนดได้รับเงินบำนาญชราภาพ ไม่ควรให้ออกจากระบบประกันสังคม และควรให้คงสิทธิประโยชน์ที่เคยได้รับเหล่านั้นไว้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศพ โดยอาจส่งเงินสมทบต่อ และหักจากเงินชราภาพ

6.อาจพิจารณาในเรื่องของการยืดระยะเวลาการเป็นผู้ประกันตนจากเดิมอายุ 15-60 ปี เป็น 15-70 ปีเมื่อดูจาก แนวโน้มของวัยแรงงานที่มีโอกาสยืดเวลาออกไป (โดยเฉพาะมาตรา 40)

7. การปรับฐานเงินสมทบกรณีชราภาพควรหักจากฐานเงินเดือนจริงเพื่อให้เงินเข้าระบบประกันสังคมเพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกันตนมีเงินออมเพิ่มขึ้นและมีเงินบำนาญชราภาพที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

8.ควรเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกันตนเลือกระหว่างเงินบำเหน็จหรือบำนาญ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนที่ หลุดจากระบบไปกลับเข้าระบบได้

“ประเด็นสำคัญสำหรับผู้ประกันตนที่เห็นด้วยคือ การขยายฐานเพดานเงินเดือนในการเก็บเงินสมทุบอัตราเดิม 5% ต่ำจาก 15,000 บาท มากกว่า 16,000 บาทจ่ายเพิ่ม ตามอัตราเพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 20,000 บาท จ่ายสมทบไปถึง 1,000 บาท ขณะเดียวกันอัตราสมทบที่จ่ายเวพิ่มขึ้นก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน"

ทั้งนี้ การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ ล่าสุดคือประกาศกฎกระทรวง การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร ให้แก่ผู้ประกันตนมาแล้ว โดยเพิ่มเงินสงเคราะห์เดิม 400 บาท เป็น 600 บาท มีผลเมื่อ 31 มกราคม 2562