Breaking News : “อภิสิทธิ์” ลาออก ส.ส. ย้ำจุดยืนหลังจับขั้ว พปชร.

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่อาคารหอประชุม TOT ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมสภาฯชั่วคราว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวขอลาออกจากการเป็น ส.ส. โดยใช้เวลาราว 15 นาที โดยมีรายละเอียดดังนี้

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงช่วงก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ตนเองได้แสดงจุดยืนไปแล้วว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งเชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วปรากฎว่า พรรค ปชป.ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตนเองก็ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรคไปแล้ว แต่ก็มีพี่น้องประชาชนอีกหลายคนที่ลงคะแนนให้เกือบ 4 ล้านคน ซึ่งตนเองสำนึกในบุญคุณเหล่านั้นตลอดเวลา และยืนยันว่าจะพยายามทำหน้าที่ตามที่พี่น้องประชาชนหวังให้ได้

ซึ่งหลังการเลือกตั้งผ่านมา ตนเองก็ยังยึดมั่นในจุดยืนดังกล่าว และพยายามโน้มน้าวสมาชิกในพรรคมาตลอด จนถึงวันนี้ก็ยังยึดมั่นในจุดยืนเดิม ประเทศชาติยังต้องการให้ประชาชนเป็นใหญ่ และประชาธิปไตยสุจริต แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเราได้เห็นในเรื่องการได้มาซึ่งคะแนนเสียงในรูปแบบต่างและ การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา การไม่สามารถตรวจสอบจากองค์กรอิสระได้ สิ่งเหล่านี้ตนเองยืนยันว่ายังมีอยู่จริง พฤติกรรมเหล่านี้คล้ายกับช่วงที่ตนเองต่อสู้่กับระบอบทักษิณ

กระทั่งต่อมา พรรค ปชป.มีมติสนับนสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกและจะเข้าร่วมรัฐบาล ตนเองด้วยความเคารพเสียงข้างมาก แม้ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว แต่ได้บอกไปแล้วว่าพรรคมีมติเช่นใดก็ควรดำเนินการตามมติพรรค แต่ก็ยีังหวังว่าเพื่อนสมาชิกจะมีการเปลี่ยนแปลงใช้พื้นที่ทางการเมืองของความเป็นพรรคขนาดกลาง ทำหน้าที่เป็นฝ่ายที่สามมีความเป็นกลาง ที่พร้อมตรวจสอบและสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งก็น่าเสียดายโอกาส ที่ไม่สามารถสร้างพื้นที่ทำงานอย่างอิสระดังกล่าวโดยไม่ตกอยู่ภายใต้เผด็จการได้ เมื่อไม่สำเร็จ สิ่งที่ตนเองต้องทำคือ

1.ขอโทษพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรค ปชป.มาในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

2.ในการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. วันนี้ เรื่องการเลือกตัวนายกรัฐมนตรี ตนเองคงไม่สามาถลงคะแนนที่ฝ่าฝืนมติพรรคได้ ตนเองทำงานการเมืองมานานนับสิบปี จะให้เดินเข้าไปแล้วหนุนพล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำไม่ได้ เพราะยิ่งใหญ่กว่ามติพรรคคือสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ

ขอบคุณพี่น้องพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอทางออก ด้วยการเสนอทางรักษาเกียรติภูมิให้ตนเองด้วยการงดออกเสียง แต่ตนเองตอบกลับไปว่า พรรคคงไม่มีหน้าที่รักษาเกียรติภูมิให้ใคร แต่ควรรักษาเกียรติภูมิของพรรค ตนเองจึงปฏิเสธทางเลือกนั้น แต่ทราบดีว่าปัญหาไม่จบตรงนั้น ทุกสัปดาห์ก็ต้องเจอปัญหาอีก แม้การเลื่อนประชุมสภาครั้งก่อน ตนเองก็ลำบากใจที่จะต้องยกมือให้เลื่อนการประชุมโดยที่ไม่มีเหตุผลมาอธิบายพี่น้องประชาชน

ดังนั้นวันนี้เหลือทางเดียว ที่จะรักษาเกียรติภูมิ คือต้องรักษาคำพูดและรับผิดชอบบต่อคำพูดที่กล่าวไว้กับประชาชน เพราะตนเองยึดถืออุดมการณ์ หลักการ เป็นที่ตั้งในการทำงานการเมือง

จึงขอตัดสินใจลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป