ย้อนอ่านบทความของกรมสุขภาพจิต ฝึกติดเบรกคุมหัวร้อน เเนะวิธีควบคุมอารณ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย โดยเฉพาะบนท้องถนน
วันที่ 23 ต.ค. 62 จากกรณี หนุ่มซีวิคหัวร้อน ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โต้ เจ็ทโด้ ได้เผยแพร่คลิป เป็นเหตุการณ์ล่าสุด จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นับไม่ถ้วน ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบและความเสียหาย อันเนื่องมาจากการที่ไม่สามารถระงับยับยั้ง หรือควบคุมอารมณ์ได้
เพราะโลกทุกวันนี้ การถ่ายคลิปและเผยแพร่ไปในโลกโซเชียล เป็นสิ่งที่ง่ายดาย ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์หุนหันพลันแล่นเพียงชั่วขณะ อาจกลายเป็นตราบาปที่ประทับในชีวิตของบุคคลผู้นั้นไปอีกนานแสนนาน
สปริงนิวส์ จึงขอนำบทความ ฝึกติดเบรกคุมหัวร้อน ของ กรมสุขภาพจิต มาเผยแพร่ ด้วยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย
โดย น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวว่า ขณะนี้สื่อโซเซียลมีการเผยแพร่คลิปทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ ซึ่งอารมณ์โกรธ หากไม่สามารถควบคุมได้ จะเป็นพลังทำลาย
ขณะโกรธ ร่างกายจะขับสารแอดรีนาลิน ออกสู่กระแสโลหิต ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงอันตราย เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ซึ่งทุกคนควรฝึกติดเบรก เพื่อคุมอารมณ์ โดยฝึกถามใจตัวเองเบื้องต้น 4 ข้อ ดังนี้
1. ถามตัวเองว่า เรื่องที่โกรธสำคัญแค่ไหน
2. ถามตัวเองว่า ถ้าตอบโต้ทันที จะเกิดอะไรขึ้น
3. ถามตัวเองว่า ได้เคยทำสิ่งเดียวกับที่คนอื่นทำกับเราหรือไม่
4. ถามตัวเองว่า เพราะเหตุใดคนอื่น จึงทำเช่นนี้
ซึ่งจะช่วยประวิงเวลา ทบทวน ทำให้ใจเย็นลง ตั้งสติได้ ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้จากการถามใจตัวเอง คือการให้อภัย ปล่อยวาง และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
ส่วน ดร.สุดา วงศ์สวัสดิ์ ผอ.สำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต ได้แนะ 5 วิธีจัดการความโกรธ คือ
1. นับ 1 ถึง 10 ในใจ ก่อนจะพูดอะไรออกไปขณะโกรธ
2. นับ 1 ถึง 10 แบบใหม่ จะคุมความโกรธได้ดีขึ้น
3. นับ 1 ถึง 10 พร้อมนึกถึงสิ่งที่ชอบ-อารมณ์ดี
4. นับเลขถอยหลังจาก 100 - 80
5. หลับตานึกถึงเหตุการณ์หรือสิ่งที่มีความสุข สบายใจ
ขณะสิ่งที่ไม่ควรทำขณะที่รู้สึกโกรธจนคุมตัวเองได้ยาก คือ
1. ไม่โพสต์เฟซบุ๊กระบาย ขณะยังโกรธรุนแรง
2. ห้ามขับรถ เพราะจะขาดสติ
3. ไม่ระบายอารมณ์โดยดื่มเหล้า
4. หลีกเลี่ยงทะเลาะ
5.ห้ามคิดหมกมุ่นอยู่กับคน-เรื่องที่โกรธ เพราะจะโกรธเพิ่มขึ้นและอาจเกิดความรุนแรงได้
และทั้งหมดนี้ก็คือคำแนะนำดีๆ ที่เราเชื่อว่า หากมีการนำไปปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายแล้ว เหตุการณ์ทะเลาะเบ้าแว้งด้วยอารมณ์รุนเเรงในสังคม จะทุเลาลง รวมถึงกรณีแบบ หนุ่มซีวิค หัวร้อน ก็จะลดน้อยลงด้วย
ภาพโดย Alexas_Fotos จาก Pixabay , Suhas Rawool จาก Pixabay
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-หนุ่มซีวิคหัวร้อนเหตุรถชน พาลด่ากราดคนไทยทั้งประเทศ (คลิป)
-ตร. เผยยังไม่มีคู่กรณีแจ้งความ “หนุ่มซีวิคหัวร้อน”
-เดือด! คนขับแท็กซี่หัวร้อน โวยวายท้าต่อย กลางงานสำคัญสนามหลวง (คลิป)
-ไล่ออก!! หนุ่มซีวิคหัวร้อน บริษัทแถลงขอโทษคนไทย ยืนยันเชิดชูสถาบัน