โฆษก กห. เผย "บิ๊กตู่" สั่งเข้ม ดูแลการประชุมอาเซียน ! ถาม "มงคลกิตติ์" ได้ข้อมูลกลุ่มชายฉกรรจ์เข้า กทม. มาจากไหน ?

วันที่ 30 ต.ค. 62 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ สนับสนุนการจัดประชุมอาเซียน หรือ อาเซียนซัมมิท ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2562

โดยมีส่วนที่รับผิดชอบกับกระทรวงต่างประเทศ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่นสารัตถะ การรักษาความปลอดภัย , การต้อนรับผู้นำประเทศ , การนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยตามการร้องขอของประเทศต่างๆ โดยให้ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตรงวัตถุประสงค์ สมเกียรติของการเป็นประธานอาเซียนในปีนี้

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเน้นย้ำ หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกลาโหมแ ละ ผบ. เหล่าทัพ สนับสนุน การประชุมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ หรือ ADMM Reterat และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม คู่ค้าเจรจา หรือ ADMM-Plus ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.2562

รวมทั้งการจัดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security) ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย. โดยให้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งด้านสารัตถะพิธีการ กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยผู้นำและผู้แทนประเทศต่างๆ ในระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศไทย โดยให้นำบทเรียนการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมา มาปรับปรุงพัฒนากิจกรรมในครั้งนี้ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ให้ใช้โอกาสในการที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ เน้นไปที่การมองสู่อนาคต และการเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียนให้เข้มแข็งขึ้น แสวงหาความร่วมมือ รวมทั้งเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น กับประเทศนอกภูมิภาค ภายใต้แนวคิดหลัก ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน

สำหรับการจัดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defense & Security) ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันนำเสนอการวิจัยที่พัฒนาไปสู่การผลิตเครื่องมือและยุทโธปกรณ์เพื่อการปฏิบัติการทางทหาร การสนับสนุนภารกิจที่ไม่ใช่สงครามใ ห้สามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้เองได้ในกองทัพ เช่น การบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือประชาชน

เมื่อถามถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาเปิดเผย มีกลุ่มต้องสงสัยจำนวน 100 คน เดินทางเข้ามาในพื้นที่ กทม. พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนั้น ซึ่งต้องถามทางนายมงคลกิตต์ว่า ได้ข้อมูลมาจากที่ใด ?

แต่ในส่วนของหน่วยงานความมั่นคง ได้ประชุมหารือและเตรียมความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ในทุกรูปแบบ และมีความพร้อมดูแลความปลอดภัยของผู้นำทั้ง 18 ประเทศ ที่จะเข้ามาประชุมอาเซียนซัมมิท ร่วมถึงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน อย่างต่อเนื่องทั้งปี

ซึ่งเราดูแลกันอยู่แล้ว และพยายามไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ของประเทศ และไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอย่างที่เกิดขึ้นปี 2552 ซึ่งเราพยายามเต็มที่และขอความร่วมมือร่วมกับประชาชน เป็นหูเป็นตาระวัง หากเห็นเหตุการณ์ที่ผิดสังเกต ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นชื่อเสียงของประเทศในภาพรวม และไม่อยากจะให้ใช้โอกาสและสถานการณ์อย่างนี้ มาสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ในส่วนของผู้นำต่างประเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเนื่องจากการที่ผู้นำต่างประเทศมาไทยก็ต้องมีการประสานเข้ามาว่า เขาต้องการสนับสนุน หรือต้องการความร่วมมืออะไรบ้าง เราเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนการดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้นำในทุกประเทศดูแลบิ๊กตู่ บอก เหล่าทัพ โดนหนักหน่อย แจงงบประมาณ 2563 เพราะ นายกฯ มาจากทหารเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงผลการประชุมสภากลาโหม โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน โดย สั่งการให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เตรียมพร้อมชี้แจงงบประมาณประจำปี 2563 ต่อสภา ถึงความจำเป็นเหตุผลการใช้งบประมาณ หรือกรรมาธิการทหารที่เกี่ยวข้อง

และยืนยันว่า เราจะใช้กลไกสภาในการชี้แจงทำความเข้าใจกันถึงเหตุผลและความจำเป็นในการใช้งบประมาณของกระทรวงกลาโหม จะไม่พูดผ่านสื่อ เพราะจะเกิดการโต้ตอบกันไปมา และทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน วันนี้เป็นการใช้กลไกสำคัญในการพูดคุยทำความเข้าใจกันจะเป็นการตั้งข้อสังเกตการณ์ เหตุผลความจำเป็นก็จะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการทหารเชิญผู้บัญชาการเหล่าทัพไปชี้แจงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ จะต้องไปหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ต้องพิจารณาตรวจสอบในข้อกฎหมายและวิธีปฏิบัติ อันไหนที่เป็นข้อกฎหมายที่จำเป็นก็ต้องไป ส่วนไหนเกี่ยวข้องกับวิธีปฏิบัติที่ส่งตัวแทน ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ได้เน้นย้ำในที่ประชุมสภากลาโหม โดยให้ ผบ. เหล่าทัพเตรียมพร้อมในการชี้แจงงบประมาณในส่วนของแต่ละเหล่าทัพ เพราะอาจจะโดนหนักหน่อย เนื่องจากตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากทหาร