svasdssvasds

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "ทางรอดอนาคตใหม่ กับ เสียงประชาชน" โดยผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 82.5 % เห็นว่าความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่ลงมากถึงมากที่สุด

วันที่ 15 ธ.ค. 62 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทางรอดอนาคตใหม่ กับ เสียงประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 2,737 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” (Traditional Voice) จำ นวน 1,144 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11 – 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

เมื่อสอบถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริง ส.ส.ควรทำอย่างไร เพื่อความอยู่รอดของตนเอง และช่วยแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนได้ด้วย พบว่า เกินครึ่งหรือ ร้อยละ 51.5 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล

ในขณะที่ร้อยละ 34.3 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และร้อยละ 14.2 ยังไม่รู้ ไม่แน่ใจ ที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 40.0 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย รองลงมาคือ ร้อยละ 18.3 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 15.9 ระบุพรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 13.5 ระบุ พรรคประชาธิปัตย์ และ ร้อยละ 12.3 ระบุพรรคพลังประชารัฐ ตามลำดับ

ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 ระบุ ความขัดแย้งทางการเมืองมีผลทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีกมากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 17.5 ระบุ น้อยถึงไม่มีผลเลย

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนว่า มีคนอื่นอีกหรือไม่ ที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ เรียบร้อย นอกเหนือไปจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่า จินดา พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.3 ระบุไม่มี ในขณะที่ร้อยละ 10.0 ระบุว่ามี ได้แก่ ธนาธร ร้อยละ 4.5 ปิยบุตร ร้อยละ 1.6 และคนอื่นๆ ร้อยละ 3.9 และที่เหลือร้อยละ 36.7 ระบุ ยังไม่รู้ใครจะทำได้ /ไม่ตอบ

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวด้วยว่า ผลการสำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll พบว่า เรื่องของพรรคอนาคตใหม่กำลังเข้าถึงคนในโลกโซเชียลทั้งหมด 32,109,909 คน หรือ ประมาณสามสิบสองล้านคน แต่มีคนที่สนใจพูดถึงเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ ในโลกโซเชียลจำนวน 165,937 คน หรือ หนึ่งแสนหกหมื่นกว่าคน

อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับต่อเรื่องของ พรรคอนาคตใหม่ ที่ค้นพบครั้งนี้ เป็นเสียงตอบรับเชิงบวกร้อยละ 52.3 และเสียงตอบรับเชิงลบมีร้อยละ 47.7 ผศ.ดร.นพดล กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลที่ค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า เรื่องของพรรคอนาคตใหม่น่าจะมีทางออกไปตามกระบวนการประชาธิปไตยได้ไม่ยากนัก ถ้าไม่เกิดความรุนแรงบานปลาย

คือถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริง ประชาชนส่วนใหญ่ก็มีทางออกให้พรรคอนาคตใหม่ด้วยความสงบเรียบร้อย โดยไม่มีการเสนอทางออกใดด้วยวิถีแห่งความรุนแรง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ความกลัวและความกังวลของประชาชนที่จะเกิดเหตุวุ่นวายซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศให้แย่ลงไปอีก

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

“อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกคนในชาติหันมาช่วยกันป้องกันเหตุรุนแรงบานปลายด้วยการบริหารอารมณ์ได้ บ้านเมืองก็น่าจะเดินหน้าต่อไปไม่หยุดชะงัก ส่วนใครปลุกระดมและก่อเหตุรุนแรงบานปลายก็ต้องถูกจัดการตามกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางสังคม อย่าให้มาทำร้ายสังคมได้อีก

“เนื่องจากเมื่อถึงจุดหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง คนไทยส่วนใหญ่เลือกที่จะรักความสงบตามเพลงชาติที่พรรคอนาคตใหม่ และกลุ่มผู้สนับสนุนได้ร่วมกันร้องด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเมื่อเย็นวานนี้” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล ปชช. 82.5 % ระบุ ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจแย่หนัก

ที่มา ซูเปอร์โพล

ภาพโดย 1820796 จาก Pixabay

related