นักท่องเที่ยวไทยยกเลิกทัวร์ อิรัก-อิหร่าน ผู้ประกอบการอ่วม!

จากเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับทั่วโลก ในเช้าวันที่ 8 ม.ค. 63 (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ ฐานทัพอากาศอิน อัล-อาซาด ทางตะวันตกของประเทศอิรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศขนาดใหญ่ของสหรัฐ ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ โดยหน่วยพิทักษ์การปฎิวัติอิสลาม หลังประกาศว่าจะล้างแค้นต่อการสังหาร นายพลคาเซม สุเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดเบอร์สองของอิหร่าน

สปริงนิวส์ ได้ต่อสายตรงสัมภาษณ์ คุณสิทธิชัย อุดมกิจธนกุล กรรมการกลางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) และผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า "ตอนนี้มีผลกระทบแล้ว เนื่องจากคนไทยและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หวั่นไหวกับสถานการณ์ ฉะนั้นกรุ๊ปทัวร์ที่จะไปอิหร่าน อิรัก หรือไปแถบตะวันออกกลางเราโดนยกเลิกเกือบทั้งหมดแล้ว ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยกลัวว่าจะโดนลูกหลงในระหว่างการเดินทางหรือในระหว่างการบิน และมีสายการบินยูเครนตกที่อิรัก พอมีข่าวนี้คนก็ยกเลิกหมด แม้กระทั่งตั๋วที่จองไว้แล้ว โรงแรมที่จองไว้เรียบร้อยก็ยกเลิก"

ส่วนด้านการรับมือกับสถานการณ์นักท่องเที่ยวไทยเกิดความไม่มั่นใจในการเดินทางไปเที่ยวประเทศอิรักและอิหร่าน คุณสิทธิชัย เผยกับสปริงนิวส์ว่า "เราก็ได้แต่ให้คำอธิบายกับลูกค้า ให้ความมั่นใจ อย่างเช่น ประเทศที่ไม่ได้อยู่คู่รบกัน ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน ตุรกี หรืออื่นๆ ที่อยู่ในแถบนั้น แต่คือลูกค้าเขากังวลเพราะว่ากลัวเรื่องการเอาคืนของอิหร่าน เพราะ ประเทศของจอร์แดนที่ว่ามีความใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา หรือว่าฝ่ายตุรกีก็มีกระแสข่าวว่าอาจจะโดนลูกหลง"

และยังเผยอีกว่า "ส่วนใหญ่ลูกค้าที่จะมาในประเทศพวกนี้คือลูกค้าที่เที่ยวมาแล้วเกือบทั่วโลก ถึงจะมาเที่ยวอิหร่าน อิรัก ฉะนั้นในกลุ่มลูกค้าพวกนี้พอได้ข่าวปุ๊บก็ยกเลิก แม้กระทั่งคณะทัวร์ที่เราจะไปเที่ยวอิรักกันในประมาณเดือนกุมภาพันธ์ทุกอย่างต้องยกเลิกหมด  ฉะนั้นทัวร์อิรักโดยตรงเราได้รับผลกระทบ  ส่วนอิหร่านก็ได้รับผลกระทบแน่นอน 100%  แต่ส่วนในประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง จอร์แดน ดูไบ หรือประเทศในแถบนั้น ลูกค้าบางท่านก็ยังสองจิตสองใจ อย่างเช่นคณะทัวร์ที่จะไปจอร์แดนในเดือนมีนาคม เมษายน บางคณะเราก็ถูกยกเลิกแล้ว แต่ก็ยังมีบางคณะที่ยังมั่นใจว่าน่าจะเดินทางได้ เพราะว่าเนื่องจากประเทศจอร์แดนไม่ได้อยู่ร่วมให้รบในสงครามกับเขา ยังมีบางกลุ่มครับที่ยังเชื่อว่าเดินทางไปได้"

ส่วนด้านมูลค่าความเสียหายของบริษัทหลังเกิดเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 2 วัน เจ้าตัวยอมรับว่า "ตอนนี้เราเสียหายตัวเลขอยู่ที่หลักล้านแล้ว เพราะว่ามูลค่าราคาทัวร์ท่องเที่ยวในแถบตะวันออกกลางนี้จะค่อนข้างสูง ตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนกว่าบาท ยิ่งโดยเฉพาะตลาดไทยเองกลุ่มเงินมีกำลังทรัพย์จะนิยมเที่ยวกัน ฉะนั้นในคณะนักท่องเที่ยวเหล่านี้ถือว่าเป็นตลาดบนส่วนใหญ่ก็จะอ่อนไหวกับเรื่องความปลอดภัย ส่วนพวกตลาดล่างในแถบตุรกีเที่ยวราคาถูกๆ เราก็ได้รับผลกระทบบ้างพอสมควรแต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ เพราะตลาดล่างอาจจะไม่ค่อยอ่อนไหวเท่าตลาดบน"

ด้านการปรับตัวหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในฐานะผู้ประกอบการเผยว่า "การท่องเที่ยวของลูกค้าในแถบตะวันออกกกลางก็คงจะมีผลไปในระยะหนึ่ง ฉะนั้นการปรับตัวของเราจะต้องมองดูตลาดใหม่เช่น แถบในเอเชียมากกว่าในตอนนี้ เพราะว่าตอนนี้ในแถบเอเชียจะค่อนข้างปลอดภัย ผมคาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าสถานการณ์หน้าจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากว่าในประเทศอิหร่านจริงๆ เป็นประเทศที่ปลอดภัยมาก น่าเที่ยว สงบ ปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แม้กระทั่งในช่วงที่เขามีเรื่องกันอยู่ มีในคณะทัวร์บางกลุ่มที่ยังเที่ยวอยู่ในอิหร่านก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย"