แม่เหยื่อครูหื่นร่ำไห้! ครอบครัวทุกข์หนัก ลูกไม่กล้าไปเรียน(มีคลิป)

จากกรณีครูหื่น อายุ 32 ปี เป็นครูสอนดนตรีโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปะทิว จ.ชุมพร ได้หลอกลวงพา เด็กหญิง อายุ 12 ปี ที่เป็นลูกศิษย์ของตัวเองพาขึ้นรถตู้อ้างพาไปช่วยขนกล้วยมาโรงเรียน แต่กลับพาเข้ารีสอร์ตแห่งหนึ่งแล้วข่มขืนกระทำชำเรา ต่อมาครูคนดังกล่าวเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้ออกจากราชการและยึดใบประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากผลการสอบสวนเบื้องต้นมีหลักฐานชัดเจน ตามข่าวที่เสนอนั้น

ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ.63 ครูและตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 (ชุมพร-สุราษฎร์ธานี) ได้เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจครอบครัวของเด็กหญิง 12 ปี  โดยมีเจ้าหน้าที่จากยุติธรรมจังหวัดชุมพร ร่วมเดินทางมาเพื่อแจ้งสิทธิ์ประโยชน์ที่จะได้รับเป็นเงินเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 2544

ทางผอ.โรงเรียน กล่าวกับครอบครัว ด.ญ.จอย ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเพียงบุคลากรเพียงคนเดียวที่ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียและยังทำให้เสื่อมศรัทธาต่อสาธารณชนด้วย ซึ่งทางโรงเรียนจะนำเรื่องนี้เป็นบทเรียนแก้ไข และสร้างกฎเหล็กกับบุคลากรอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งขอให้ทุกครอบครัวช่วยกันดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวนักเรียนเอง ก็ต้องระมัดระวังตัว

ขณะที่ ผู้ปกครองของเด็กหญิง 12 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุครอบครัวเธอไม่มีความสุขเลย เพราะถูกสังคมออนไลน์มาต่อว่าให้เสียหายว่า ลูกสาวให้ท่าและเต็มใจทั้งที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง และซ้ำร้ายไปยิ่งกว่านั้นก็ คือ คนในสถานศึกษาที่ลูกเรียนอยู่ บางคนที่คอยเหน็บแนมคอยเล่าเรื่องเท็จ และบอกว่าเด็กเป็นลูกใครแม่ทำอาชีพอะไร จนเธอเองต้องปิดร้านค้า ที่ทำธุรกิจมานานและกำลังไปได้ดี เพราะทนไม่ไหวต่อคนพวกนี้

ในขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ได้นำสำนวนคดีเดินทางไปยังศาลจังหวัดชุมพร โดยมีนายญาณพล ผู้ต้องหาซึ่งได้เดินทางไปเองที่ศาลเพื่อฝากขังในผัดแรก โดยทางผู้ปกครองได้ร้องขอต่อพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพื่อป้องกันมาข่มขู่ครอบครัว และพยานบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุได้ตรวจสอบประวัติ ครูคนดังกล่าว พบว่าเมื่อสองปีที่ผ่านมา เคยมีเรื่องลักษณะเดียวกับกับเด็กนักเรียนหญิงที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง แต่มีการเคลียร์ปัญหากันได้ แต่ต่อมาได้ถูกย้ายมาสอนที่โรงเรียนใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิมอีก นอกจากนี้จากการสอบเชิงลึก ยังพบว่าในโรงเรียนแห่งนี้ของอำเภอปะทิว ยังมีเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.3 และ ม.5 อีกอย่างน้อย 2 คน ที่ถูกกระทำในลักษณะโดนล่วงละเมิดอีกด้วย