ส่งออกทะลุเป้า!   

กกร.-สภาผู้ส่งออก จ่อปรับคาดการณ์ส่งออกใหม่ขยายตัวสูงกว่า 3.5% หลังสมาชิกชี้แนวโน้มครึ่งปีหลังยังดี แต่ต้องฟันฝ่าปัจจัยเสี่ยงอื้อ ทั้งบาทแข็งค่า ราคาสินค้าเกษตร-นํ้ามันแนวโน้มลดลง นโยบาย “ทรัมป์” กีดกันการค้า “ไพบูลย์” ชี้เป้า 5% อีก 7 เดือนที่เหลือต้องไม่ตํ่า 1.89 หมื่นล้านดอลล์/เดือน “ฐานเศรษฐกิจ” ได้จัดสัมมนา “ครึ่งทางส่งออกไทย...ฝันใหญ่ไปให้ถึง” เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมงานคับคั่ง ความเข้มข้นอยู่ในช่วงเสวนาหัวข้อ “ส่งออกไทยเป้า 5% ...ฝันใหญ่ไปให้ถึง” ซึ่งวิทยากรได้ให้มุมมองที่หลากหลายและน่าสนใจยิ่ง

กกร.ลุ้นขยับเป้าเพิ่ม

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า กกร.ได้คาดการณ์ล่าสุดเมื่อเดือนเศษที่ผ่านมาอัตราการขยายตัวส่งออกไทยปี 2560 จะขยายตัวได้ที่ 3.5%(จากปีที่แล้วส่งออก 2.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เมื่อรวมกับรายได้จากภาคบริการ และการท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่ง จะสามารถทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ 4% อย่างไรก็ดีในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุม กกร.ประจำเดือนอาจมีการพิจารณาปรับคาดการณ์ส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 3.5% “แม้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมล่าสุดจะติดลบ แต่ดัชนีที่ติดลบส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ประกอบการที่เน้นตลาดในประเทศ ขณะที่กลุ่มที่เน้นตลาดส่งออกยังมองเป็นบวก แสดงว่ายังมีความเชื่อมั่นและยังส่งออกได้ดีโดยดูจากปริมาณการสั่งซื้อ การส่งมอบ และราคาที่ยังไปได้ดี ดังนั้นตัวเลข 3.5% ไม่น่าหลุดเป้า ส่วนจะปรับขึ้นได้เท่าไรนั้นจะดูอีกที โดยสินค้าที่มีนํ้าหนักต่อการส่งออกสูงอยู่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และยานยนต์”

ต้อง1.89หมื่นล.ดอลล์/เดือน

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษากรรมการ และอดีตประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษากรรมการ และอดีตประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า สรท.ยังคาดการณ์การส่งออกปีนี้ไว้ที่ 3.5% แม้การส่งออกของไทยช่วง 5 เดือนแรกปีนี้สามารถขยายตัวได้ถึง 7.2% ส่วนหนึ่งผลจากฐานตัวเลขมูลค่าการส่งออกช่วงเดียวกันปีที่แล้วตํ่าจากหลายสินค้าเช่น เกษตรและอาหาร สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับนํ้ามัน(ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์) ราคาส่งออกไม่สูง แต่ปีนี้ช่วงเดียวกันราคาสูงกว่า ขณะอีก 7 เดือนที่เหลือปีนี้ราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกและราคายางพาราแนวโน้มทรงตัวในระดับตํ่า จะส่งผลถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง และหากจะดันเป้าหมายการส่งออกให้ได้ที่ 5% ตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ จะต้องส่งออกให้ได้ที่ระดับ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ซึ่งไม่ง่ายเพราะปีที่แล้วช่วง 7 เดือนหลัง ไทยส่งออกได้มากกว่า 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพียง 2 เดือน (ก.ย.และพ.ย.) นอกนั้นตัวเลขตํ่ากว่า “ปัจจัยเสี่ยงเดือนที่เหลือปีนี้ยังมีอยู่มาก เช่น ราคาเชลล์ออยล์ (นํ้ามันสกัดจากชั้นหินดินดาน)ปรับลดลง มีผลให้ราคานํ้ามันดิบลดลงตาม ค่าเงินบาทเป็นปัญหาใหญ่มาก ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก ปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก และยังต้องรอดูสินค้าที่ผู้นำเข้านำไปจำหน่ายช่วงซัมเมอร์ของยุโรปจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้สภาผู้ส่งออกจะพิจารณาปรับคาดการณ์ส่งออกอีกครั้งหลังผ่าน 6 เดือนไปแล้วหากมีการปรับคงไม่เกิน 5%”

ตลาดไก่อียู-ญี่ปุ่นดีต่อเนื่อง

นางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการบริหารในเครือฉวีวรรณ

ด้านนางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการบริหารในเครือฉวีวรรณ กล่าวว่า การส่งออกสินค้าไก่ของไทยยังไปได้ดี และคาดปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ตํ่ากว่า 5% โดยตลาดหลักคือสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีอังกฤษเป็นตลาดใหญ่สุด รวมถึงตลาดญี่ปุ่นยังมีความต้องการนำเข้าสูง แม้ในยุโรปต้องเผชิญกับภัยการก่อการร้ายก็ไม่กระทบการนำเข้า นอกจากนี้ไทย ยังได้ตลาดไก่สดในเกาหลีใต้กลับคืนมา ตลาดจีนนำเข้าเพิ่มขึ้น “ที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องบริหารจัดการให้ดีคือ มาตรฐานสินค้าและความปลอดภัยด้านอาหาร ต้องทำอย่างเข้มงวด การทำระบบฮาลาล การป้องกันโรคไข้หวัดนก ขณะที่เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าเงินคู่ค้าที่ผันผวนเช่นค่าเงินปอนด์ของอังกฤษ จะต้องทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (ฟอร์เวิร์ด) แต่ก็ทำไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมดเพราะต้องมีวงเงินกับแบงก์ สรุปคือเป้า 5% สำหรับสินค้าไก่มั่นใจทำได้หากค่าเงินไม่ผันผวนมาก”

พาณิชย์ยังมั่นใจเป้า5%

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกครึ่งหลังของปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี มั่นใจทั้งปีนี้เป้าหมาย 5% จะสามารถทำได้ แต่จะทำได้มากกว่า 5% หรือไม่ต้องติดตาม ในส่วนของกรมยังมีแผนงาน/กิจกรรมในการกระตุ้นการส่งออกทั้งในตลาดเดิม และในตลาดใหม่ๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงการผลักดันผู้ประกอบการผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรม และมูลค่าเพิ่มเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และยังมีสำนักงานทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ 58 สำนักงานทั่วโลกที่รู้ช่องทางโอกาสในแต่ละตลาดเป็นอย่างดี ผู้ส่งออกสามารถใช้บริการข้อมูลในตลาดที่สนใจได้ จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,275 วันที่ 2 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560