โกรธแค้นพ่อเลี้ยง เข้าใจว่าแจ้งความตำรวจให้มาจับน้องชาย ปลูกกัญชา 2 ต้นที่สวนหลังบ้าน หนุ่มวัย 29 ปี ตามยิงเสียชีวิตคาห้องนอน
วันที่ 5 มี.ค.63 พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สารวัตรสอบสวน สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 25/12 ม.3 ต.นาสัก จึงเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย โดยบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่บนเนื้อที่หลายสิบไร่ที่แวดล้อมไปด้วยสวนทุเรียน ภายในห้องนอน พบศพนายวารินพร เอาชัย อายุ 45 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองที่สีข้างด้านขวา นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนที่เต็มไปด้วยเลือด ที่พื้นพบอาวุธปืนลูกซองสั้น ตกอยู่ 1 กระบอก และที่ฝาผนังห้อง ยังมีอาวุธปืนลูกซองสั้นอีก 1 กระบอก
ในที่เกิดเหตุ มีนางวิลาวัลย์ เศรษฐพงศ์ อายุ 46 ปี ภรรยาของนายวารินพร ยืนร้องไห้อยู่ พร้อมกับเพื่อนบ้านอีกหลายคน เจ้าหน้าที่สอบถามนางวิลาวัลย์ ทราบว่า ในช่วงสายๆของวันนี้ ได้มีนายสุรเกียรติ รัตนชัย อายุ 29 ปี ลูกชายของนางวิลาวัลย์ ที่เกิดกับสามีคนเก่า ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้าน และได้ถามหานายวารินพร เมื่อรู้ว่านอนอยู่ในห้องนอน จึงเข้าไปเคาะประตูเรียก โดยทางนายสุรเกียรติ ได้สอบถามนายวารินพร เกี่ยวกับเรื่องที่น้องชายของนายสุรเกียรติ โดนตำรวจจับกุมต้นกัญชา จำนวน 2 ต้น ซึ่งได้ปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน และมีข่าวว่านายวารินพร ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง เป็นผู้แจ้งตำรวจ หลังจากนั้นได้ยินโต้เถียงกัน กระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งเข้าไปแย่งอาวุธปืนจากนายสุรเกียรติ ก่อนที่นายสุรเกียรติ จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
นางวิลาวัลย์ เล่าว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นาสัก ได้เข้ามาตรวจสอบที่บ้าน พบว่า ภายในสวนมีต้นกัญขา จำนวน 2 ต้น ที่ปลูกไว้สำหรับใส่แกง ทำให้ลูกชายคนที่ 2 ถูกจับกุมดำเนินคดี ต่อมามีข่าวลือว่านายวารินพร พ่อเลี้ยงของนายสุรเกียรติ เป็นผู้แจ้งตำรวจให้มาจับน้องชาย อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ ทั้งที่นายวารินพร มาอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองกับแม่ เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นายวารินพร มีอาชีพรับจ้างของบริษัทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับด้านการติดตั้งเวทีแสงสีเสียงตามงานคอนเสิร์ตทั่วไปในกรุงเทพฯ นานๆจะกลับบ้านที่ ต.นาสัก สักครั้ง ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ก็พึ่งกลับมาที่บ้าน จนมาเกิดเหตุดังกล่าว
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่นายสุรเกียรติ ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุนั้น ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-น้ำเงิน จำทะเบียนไม่ได้ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล ซึ่งจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป