"โฆษกรัฐบาล" แจงยังไม่ปิดศูนย์กักกันสัตหีบ ปัดข้อมูลขัดแย้ง "บิ๊กป๊อก"

วันนี้(12 มี.ค.) ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึง กรณีมีการระบุเตรียมปิดศูนย์เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า

ศูนย์ฯ ดังกล่าว ยังคงเปิดใช้เพื่อเฝ้าระวังแรงงานที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ และยังมีกลุ่มเฝ้าระวังอยู่ภายในศูนย์ประมาณ 200 คน โดยกระทรวงสาธารณสุข จะต้องเขามาคัดกรองตามขั้นตอน เพื่อประเมินแรงงานว่าสามารถกลับไปกักกตัวยังภูมิลำเนาของตัวเอง

ขณะเดียวกันศูนย์ยังต้องเปิดใช้ เพื่อรองรับกลุ่มคนที่จะทยอยเดินทางกลับมาในอนาคต รวมถึงกรณีที่คนไทยกลับมาจากประเทศเสี่ยง และไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ เช่น ชุมชนไม่เห็นด้วยให้กักตัวในพื้นที่ หรือทางครอบครัวให้กักตัวยังศูนย์แห่งนี้ เพื่อความปลอดภัยมากกว่ากักตัวอยู่บ้าน เช่นเดียวกับกรณีที่คนไทยจะกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์ หรือผ่านการคัดกรองจากต้นทางอย่างครบขั้นตอน ซึ่งจะใช้ศูนย์ดังกล่าวเป็นพื้นที่กักตัว

นางนฤมล กล่าวว่า ส่วนมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นผู้บัญชาการศูนย์ ยังได้ออกมาตรการอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นทาง โดยการยกเลิกการขอตรวจลงตราวีซ่า เพื่อเข้าประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ( VISA on Arrival หรือ VOA ) จำนวน 18 ประเทศ ต่อไปใครที่จะใช้ VOA ต้องไปขอวีซ่าที่สถานทูตก่อน ซึ่งต้องมีใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองว่าปลอดจากความเสี่ยงเป็นโรคโควิด 19 จึงจะออกวีซ่าให้ อีกทั้งยังยกเลิกฟรีวีซ่าใน 3 ประเทศเสี่ยง คืออิตาลี ฮ่องกง และเกาหลีใต้เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติ

นางนฤมล กล่าวว่า สำหรับมาตรการยกเลิกวีซ่า จะช่วยลดจำนวนคนที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าประเทศได้หรือต่อให้เดินทางเข้ามาประเทศ ถือบอร์ดดิ้งพาส และถึงสนามบินแล้วก็จะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าปลอดโรคออกให้ภายใน 3 วัน รวมถึงมีมาตรการปลายทางของสายการบิน กรณีมีไข้จะส่งต่อไปยังสถานพยาบาลทันที และคนที่ไม่มีไข้ก็จะส่งตัวไปกักกันตามมาตรการข้างต้นผู้ที่ละเมิดจะมีความผิดตามกฎหมาย

ส่วนกรณีประเทศรัสเซีย ที่แม้จะถูกยกเลิกวีซ่า VOA ไปด้วยนั้น แต่ประเทศไทยและรัสเซีย ยังมีความข้อตกลงระหว่างกันอยู่ โดยชาวรัสเซียก็ยังคงเดินทางเข้าประเทศไทยและพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ส่วนประเทศอื่นที่มีข้อตกลงในแบบเดียวกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ และจะแจ้งให้ทราบต่อไป

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการให้ข้อมูลข่าวสารที่สับสน นางนฤมล กล่าวว่า เป็นการชี้แจงเพิ่มเติมไม่ได้มีข้อมูลที่ขัดแย้งกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินด า รมว.มหาดไทย โดยหลักการแล้วเป็นไปตามที่แถลง แต่เมื่อข่าวสารออกไปว่าจะปิดศูนย์ทั้งหมดทันที ประชาชนจึงตื่นตระหนก จึงต้องชี้แจงเพิ่มเติม