นักเศรษฐศาสตร์ให้จับตา  ผลกระทบ"พรก.เเรงงานต่างด้าว" 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

วันที่ 3-7-60-นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงพพ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว รวมทั้งการใช้มาตรา 44 ชะลอการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ออกไป 120 วันว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่ต้องมีการปรับตัวในการใช้แรงงานให้ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่จะต้องมีต้นทุนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า แต่การที่แรงงานเดินทางกลับคงไม่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศลดลงทันที ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานเดินทางกลับประมาณ 10,000 คน จากทั้งหมด 3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.3% ในขณะที่รัฐบาลกำลังหาทางแก้ปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว เชื่อว่าจะไม่กระทบจีดีพี ปีนี้ ที่ศูนย์พยากรณ์ฯ ตั้งไว้ที่ 3.6% แต่ก็เป็นประเด็นที่ต้องติดว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวได้แค่ไหน เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่รัฐบาลจะผ่อนผันให้ หากธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ก็ไม่มีปัญหา 

ด้าน นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เห็นว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุกในการแก้ปัญหาสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานและการปิดดำเนินงานชั่วคราวของกิจการที่ใช้แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารถูกต้อง โดยใช้มาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารแรงงานต่างด้าว  

นายอนุสรณ์กล่าวว่า ส่วนการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นแล้ว และมีแรงงานจำนวนมากกลับประเทศ และส่วนหนึ่งคงจะไม่กลับมาทำงานที่ไทย เพราะมีต้นทุนสูงเกินไป ซึ่งจะทำให้นายจ้างหาแรงงานไม่ได้ และคาดว่าผลกระทบ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว จะทำให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ชะลอตัวลง อาจทำให้จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวต่ำกว่า 3% และอาจเกิดการชะงักงันในการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลกำลังเร่งรัด