svasdssvasds

ถอดพิสิษฐ์พ้น "ทนายความ" เเม่น้องบีมไม่ต้องวางเงินประกันฟ้อง

ถอดพิสิษฐ์พ้น "ทนายความ" เเม่น้องบีมไม่ต้องวางเงินประกันฟ้อง

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th


วันนี้ (6 ก.ค. 60) - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริการสภาทนายความ วาระพิเศษวันนี้เพื่อพิจารณากรณีคุณสมบัติของทนายความ คือนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ซึ่งนางพรทิพย์ จันทรัตน์ มารดา ของ ด.ญ.ภัทรดา เเก้วผ่อง หรือน้องบีม กล่าวหาว่าโกงเงินเยียวยาจากอุบัติรถยนต์จำนวน 5 ล้านบาท

ว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกฝ่ายบริหารสภาทนายความกล่าวว่า ในที่ประชุมมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง จากการตรวจสอบราชกิจจานุเบกษา ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้นายพิสิษฐ์ เป็นบุคคลล้มละลาย อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 43 เมื่อความปรากฎแก่คณะกรรมการบริการสภาทนายความว่าทนายความคนใดที่ขาดคุณสมบัติการเป็นทนายความ ให้คณะกรรมการสภาทนายความจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

“ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิสิษฐ์ ถือว่าขาดคุณสมบัติตามมาตรา 35 (7) เพราะต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย คณะกรรมการจึงมีมติโดยเสียงข้างมาก เห็นชอบให้จำหน่ายชื่อนายพิสิษฐ์ ออกจากทะเบียนทนายความ และจะปรากฎในประวัติทะเบียนทนายความว่าเป็นมติของคณะกรรมการให้จำหน่ายชื่อเนื่องจากเป็นบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด โดยให้มีผลหลังจากที่คณะกรรมการได้ลงมติแล้ว จะนำมติแจ้งไปที่นายทะเบียนทนายความ และทำหนังสือแจ้งถึงนายพิสิษฐ์ เมื่อแจ้งหนังสือคำสั่งไปแล้วก็ถือว่าหมดสิทธิ์การเป็นทนายความต่อไป หลังจากนี้หากแสดงตนเป็นทนายความก็จะมีโทษตามพ.ร.บ.ทนายความ” ว่าที่พันตรีสมบัติ กล่าว

ว่าที่พ.ต.สมบัติ กล่าวอีกว่า แม้วันนี้จะจำหน่ายชื่อนายพิสิษฐ์ ออกจากทะเบียนทนายความ แต่การกระทำใดที่นายพิสิษฐ์ ทำไม่ถูกต้องก็ยังคงดำเนินการสอบสวนต่อ ส่วนกรณีจะกลับมาเป็นทนายความได้อีกหรือไม่ เมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนก็อาจจะมายื่นคำร้องขอใบอนุญาตได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นคณะกรรมการก็ต้องพิจารณาคุณสมบัติตามมาตรา 35 ว่าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายให้จดทะเบียนเป็นทนายความได้อีกหรือไม่

สำหรับการพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ฉ้อโกงลูกความ จะมีการสอบสวนลงโทษที่มีอยู่ 3 ระดับ คือ ภาคทัณฑ์ , ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนดไม่เกิน 3 ปี , และลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งเป็นมาตรการลงโทษที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ 2-3 วันก่อน เพื่อนของนายพิสิษฐ์ ได้ติดต่อขอเข้ามาที่สภาทนายความ เพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนวันและเวลาเมื่อใด จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษว่า นายวัชณ์ธิป แสดงมณี ทนายความจากสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (ส.ช.น.) เปิดเผยว่า หลังจากศาลได้ไต่สวนนางพรทิพย์และด.ญ.ภัทรดา ประกอบคำร้องของดเว้นค่าธรรมเนียมศาล 68,250 บาทที่ฟ้องเรียกเงินคืนจากทนายความนั้น ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งออกมาแล้วว่าอนุญาตให้งดเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด จากนี้ก็ต้องรอนัดพิจารณานัดแรกในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งคดีแพ่งนั้นนายพิสิษฐ์ ที่ถูกฟ้องยังไม่ต้องมาศาลก็ได้โดยสามารถแต่งทนายความเข้ามาดำเนินการกระบวนพิจารณาได้ แต่ถ้านายพิสิษฐ์ ไม่แต่งตั้งทนายความเข้ามา หรือแสดงตัวในการต่อสู้คดี ศาลแพ่งก็สามารถพิจารณาคดีของโจทก์ไปฝ่ายเดียวได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง

related