คดีพลิกหนุ่มส่งอาหารขอโทษ ยอมรับซื้ออาหารจากร้านอื่นส่งลูกค้า

จากกรณีหนุ่มส่งอาหารไลฟ์เฟซบุ๊กร้องไห้ ถูกลูกค้าเท จนต้องสูญเงินทั้งหมดที่มี ไม่มีเงินกินข้าว แต่คดีกลับพลิกเพราะลูกค้าแจงว่าซื้อร้านอื่นมาให้ โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ

ล่าสุดวันที่ 20 เม.ย. ที่ สน.ยานนาวา น.ส.น้ำทิพย์ อายุ 35 ปี พร้อมทนายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.คันนายาว เอาผิดหนุ่มพนักงานส่งอาหารในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

น.ส.น้ำทิพย์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ตอนช่วงบ่ายสาม เนื่องจากเป็นวันหยุด เธอจึงสั่งอาหารมาส่งที่บ้าน โดยสั่งร้านเจี๊ยบทีเด็ด ซึ่งตั้งอยู่ในซอยจุฬาลงกรณ์ 5 เมื่อกดสั่งอาหารผ่านแอพลิเคชัน เก็ทไป ก็มีพนักงานกดรับ โดยเธอสั่งก๋วยเตี๋ยว 3 ถุง ข้าวหน้าเนื้ออบ และกับข้าว 3 อย่าง ซึ่งกับข้าว 3 อย่างนี้ ไม่มีให้กดเลือกในแอพ แต่เพราะเคยสั่งและรู้ว่าเป็นเมนูอร่อยของร้าน จึงแจ้งเพิ่มตั้งแต่แรกกับพนักงานเลย ไม่ใช่ว่าไปสั่งเพิ่มตอนหลัง

หลังจากนั้นพนักงานแจ้งว่าร้านปิด จะไปอีกสาขา เธอคิดว่าคงไปอีกสาขาหนึ่งของร้าน จึงยอมให้ไปซื้อ แต่ปรากฎว่าพนักงานกลับไปคนละร้านตรงย่านพระราม 4 แทน แต่แม้จะไปผิดร้าน เธอเห็นว่าพนักงานคนนี้มีใจ ก็ยอมให้ไปซื้อ

น.ส.น้ำทิพย์ เปิดเผยต่อว่า จนอีกฝ่ายแจ้งมาว่าก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นหมดและแชทมาในแอพ ทีแรกเธอไม่ได้อ่าน พอผ่านไปสักพักเห็นข้อความ จึงรีบโทรกลับ แต่กลับไปติดพนักงานอีกคนที่แจ้งว่า จะบอกให้ จากนั้นพนักงานที่รับอาหารเธอจริงๆ ก็โทรกลับมาอีกเบอร์แล้วบอกว่า ถือวิสาสะสั่งก๋วยเตี๋ยวหมูหมักให้แล้ว เธอก็รู้สึกว่าทำไมไม่บอกก่อน เลยตำหนิไปรอบแรก แต่ก็ยังรับอาหาร เมื่อนำอาหารมาส่ง แจ้งราคา เธอก็แปลกใจเลยถามว่ากับข้าว 3 อย่างนั้น ไปซื้อที่ไหน อีกฝ่ายจึงยอมรับว่า ไปซื้ออีกร้านใกล้ๆ กันตรงสะพานลอย เธอเห็นว่านี่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง และคิดว่าอาหารจากร้านนี้จะได้มาตรฐานสะอาดเหรอ เมื่อพูดคุยกัน อีกฝ่ายก็ทะเลาะแล้วบอกว่า ไม่สั่งแล้วจะกินเอง เธอก็คิดว่ามีการยกเลิกอาหารไป จึงยอมปล่อยไป

น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวต่อว่า แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายกลับโทรมาเพื่อจะให้รับอาหาร ทั้งๆ ที่ตัดสายเธอไป เธอเลยบอกว่าอย่างนั้นจะประสานเก็ทให้คืนเงินเอง แต่อีกฝ่ายกลับตะโกนด่าหน้าบ้าน และไลฟ์สด จนเป็นคลิปโด่งดัง ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ มีเพื่อนถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นใช่เธอไหม เลยต้องเข้าไปอ่าน จนต้องออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก เพราะมีคนเอาเฟซบุ๊ก เอาเลขที่บ้านไปโพสท์ด่าได้รับความเสียหาย แม้จะยังไม่มีใครบุกมาบ้าน

แต่วันนี้ต้องมาแจ้งความไว้ เพราะถูกแก๊งล่าแม่มดรังแกในอินเทอร์เน็ต เธออยากฝากบอกว่า วิกฤติโควิด-19 นั้น ใครๆ ก็เดือดร้อน วิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปหมด ไม่อยากให้ใครเจอแบบเธอ อยากให้ทำงานกันแบบซื่อสัตย์และจริงใจมากกว่า อีกฝ่ายเป็นคนตัดสายบอกยกเลิกอาหารเองด้วยซ้ำไป ทั้งๆ ที่เธอพร้อมช่วยซื้อจ่ายเงิน

ด้าน ทนายเกรียงชัย กล่าวว่า พวกเขายินดีพบกับพนักงานคนดังกล่าว แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะไม่รู้ว่าคุยกันเอง บ้านของผู้เสียหายจะได้รับความปลอดภัยไหม รวมถึงจะแจ้งความกับคนโพสท์บางคนที่ด่าหยาบคาย พร้อมทั้งจะดำเนินคดีกับเก็ทที่เป็นบริษัทตัวกลางแต่กลับทำให้เกิดปัญหา ทั้งนี้อีกฝ่ายได้ให้น้องติดต่อกลับมาเพื่อพูดคุย ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เขาขอให้เป็นไปตามกฎหมายดีกว่า โดยสำหรับเก็ทนั้น ได้ติดต่อมาสอบถามข้อมูลทั้งหมด ตอนเช้าวันนี้ ซึ่งก็จะแจ้งดำเนินคดีด้วย

ด้าน นายชัย หนุ่มส่งอาหารที่เป็นคู่กรณีเผยว่าเขาต้องขอโทษลูกค้าด้วย ยืนยันว่าที่ลูกค้าโพสต์ในเฟซบุ๊กทั้งหมดชี้แจงไปเป็นความจริง ทั้งเรื่องที่เขาสั่งอาหารจากอีกร้าน ซึ่งไม่ใช่ร้านที่แจ้งกับลูกค้าว่าจะไปซื้อ เขาขอโพสต์เฟซบุ๊กขอโทษ และขอโทษผ่านสื่อมวลชน ถ้าทำผิดอย่างไร ก็ขอโทษด้วย แต่อยากให้เข้าใจว่า ถ้ามายืนจุดนี้กับเขาจะทำอย่างไร เพราะหลังจากเกิดเรื่องเขาเหลือเงินเพียง 60 บาทเนื่องจากเอาเงินไปจ่ายค่าอาหารแทนหมดแล้ว

นายชัย เปิดเผยต่อว่า เมื่อเจออย่างนี้เขาก็เลยไลฟ์ระบายความในใจเท่านั้น ถ้ารู้ว่าเรื่องจะใหญ่ขนาดนี้จะไม่ทำเด็ดขาด สำหรับรหัสพนักงานส่งของนั้น เป็นรหัสของน้อง ซึ่งระหว่างที่เขาตกงานจึงได้ขอรหัสน้องมาขับกันคนละวัน เพื่อหางานทำระหว่างตกงาน แต่ตอนนี้ทางบริษัทรับส่งอาหาร เก็ท ได้ทราบเรื่องแล้วและพบว่าเป็นความผิด จึงได้ยกเลิกรหัสพนักงานส่งอาหารอย่างถาวรแล้ว ทำให้เขากับน้องต้องตกงาน

สำหรับเรื่องการบริจาคมีคนให้ความช่วยเหลือนั้น หลังเกิดเรื่องมีคนซื้ออาหารที่ลูกค้าไม่รับไปแล้ว แต่ระหว่างไลฟ์สด มีพี่ที่รู้จักขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินช่วย เขาก็ให้ไป แล้วมีคนมาแชทถามขอเลขบัญชีจำนวนมาก จนมีคนโอนเงินมาให้ 30,000 กว่าบาท วันนี้เขาได้แจ้งคนบริจาคเพื่อขอเลขบัญชีจะได้โอนเงินคืนไป ตอนนี้เหลือเงินแค่หมื่นกว่าบาท ก็พยายามคืนเงินให้หมดเพื่อความสบายใจ เรื่องทั้งหมดผมไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้“ นายชัย กล่าว