ทอท.ยืนข้าง "คิงเพาเวอร์"  สู้คดีชั้นศาล 

วันที่ 9-7-60-ทอท.ออกโรงอุ้ม “คิงเพาเวอร์” ยันสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พร้อมไปให้ข้อเท็จจริงในศาล ด้าน “ชาญชัย” ฟ้องศาลคดีทุจริตเอาผิดทอท.-คิงเพาเวอร์ 18 ราย นัดฟังคำสั่งคดี 25 ก.ค.นี้ 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3277 ระหว่างวันที่ 9-12 ก.ค.2560 สื่อในเครือสปริง กรุ๊ปรายงานว่า  การถูกยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย  จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ทำผิดสัญญาพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือ ดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535  หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในการให้สัมปทานประกอบกิจการจำ หน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ภายในอาคารผู้โดยสาร  กับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ  ทำให้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ได้ออกมาชี้แจงต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว 

นายนิตินัย กล่าวยืนยันว่า การให้สัมปทานกับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ในการทำสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และสัญญาอนุญาต ให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในอาคารผู้โดย สาร ได้ดำเนินการตามหลัก เกณฑ์  เช่น ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่งการประเมินมูลค่าการลงทุนได้จ้างที่ปรึกษาประเมิน ทั้งสัญญาร้านค้าปลอดอากร และการประมูลกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ผลการศึกษาพบว่าทั้ง 2 โครงการมีมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท  

ทั้งนี้ หากมีการขยายพื้นที่การประกอบการหรือมีการต่ออายุสัญญาสัมปทาน ทอท.จะคำนวณเม็ดเงินลงทุนส่วน เพิ่มตามสัดส่วนพื้นที่หรือระยะเวลาสัญญาเดิมกับขอบเขตพื้นที่หรือระยะเวลาส่วนที่ขยาย เพิ่มขึ้นยังคงไม่เกินวงเงินตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และทอท.ได้คิดค่าตอบแทนตามสัดส่วนของพื้น ที่หรือระยะเวลาที่ขยายนั้นเพิ่มเติมด้วย 

ในด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและส่งผลกระทบต่อการให้บริการของทอท. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ คณะกรรมการทอท. ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม  

สำหรับประเด็นที่จะยื่นฟ้องคณะกรรมการ ทอท.และผู้บริหาร ทอท.หลายคำฟ้องในการทำสัญญาเอื้อประโยชน์กับกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเป็นจำนวนมาก และได้มีการยื่นฟ้องไปแล้ว 1 คดี โดยศาลได้นัดฟังคำสั่งว่ารับพิจารณาคดีและไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 นั้น ทอท.ยินดีที่จะไปชี้ แจงข้อเท็จจริง  เนื่องจากตลอดระยะเวลาการบริหารสัญญา คณะกรรมการ ทอท.และผู้บริหาร มิได้มีการกระทำการใดๆ อันเป็นการหลีกเลี่ยง หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีการกล่าวหา ในทางกลับกัน ได้บริหารสัญญาด้วยความรอบคอบระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และผู้ถือหุ้นตลอดมา  

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ ทอท. และพวก รวม 18 ราย ในข้อหาร่วมกระทำผิดกฎหมายและข้อสัญญาที่ก่อ หรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์เกินกว่าที่สัญญาระบุไว้ ในความผิดฐานเป็นพนัก งานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นกรรมการหรือผู้บริหารไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 14,290 ล้านบาท และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้ กระทำความผิด และขอให้สั่ง ริบเงิน 14,290 ล้านบาท  ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้    

สำหรับจำเลยในคดีนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม รวม 18 ราย กลุ่มแรกเป็น คณะกรรมการ ทอท. ประกอบด้วย 1.นายประสงค์ พูนธเนศ 2.นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน 3.นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ 4.นายราฆพ ศรีศุภอรรถ 5.นายนันทศักดิ์ พูลสุข 6.น.ต. ประจักษ์ สัจจโสภณ 7. พล.อ.ท.จอม รุ่งสว่าง 8.นายวราห์ ทองประสินธุ์ 9.พล.อ.ท.ประกิต ศกุณสิงห์ 10.นายมานิต นิธิประทีป 11.นายธานินท์ ผะเอม 12.นายธวัชชัย อรัญญิก 13.นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ และ 14.นายนิตินัย ศิริสมรรถการ  

และกลุ่มบริษัทเอกชน ประกอบด้วย 1.บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด 2.บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 3.บริษัท คิงเพาเวอร์  ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด และ  

4.นายสมบัตร เดชาพานิชกุล ตัวการร่วม ในฐานะผู้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญ กระทำการผูกพันบริษัทให้กับจำเลยที่ 15-17