svasdssvasds

“บุญสร้าง” เผยปฏิรูปตำรวจ ยึดกรอบทำงาน 2-3-4 

“บุญสร้าง” เผยปฏิรูปตำรวจ ยึดกรอบทำงาน 2-3-4 

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 9 ก.ค.60- พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการฯนัดแรกว่า การประชุมคณะกรรมการฯนัดแรกนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย  ถนนแจ้งวัฒนะ โดยจะมีการหารือถึงกรอบการทำงาน และแบ่งคณะกรรมการฯออกเป็นชุดคณะอนุกรรมการฯ ด้านต่างๆ เช่น คณะอนุกรรมการด้านองค์กร คณะอนุกรรมการด้านกระบวนการยุติธรรม  คณะอนุกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายที่ดูเรื่องการบริหารบุคคล และคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เป็นต้น ในส่วนตัวของตนตอนนี้ยังไม่ได้นำโมเดลใดมายึดในการดำเนินการ เพราะการดำเนินการครั้งนี้เป็นเรื่องของเนื้อหาที่มีรายละเอียด ซึ่งต้องรอให้มีการเริ่มดำเนินการกันก่อน  

 

“บุญสร้าง” เผยปฏิรูปตำรวจ ยึดกรอบทำงาน 2-3-4 

เมื่อถามถึง กรณีเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจออกแถลงการณ์ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. และพล.อ.บุญสร้าง ทบทวนวิธีการทำงานจากที่แบ่งช่วงเวลา 2-3-4 เป็น4-3-2 แทน พร้อมกับขอให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนร่างกฎหมาย พล.อ.บุญสร้าง กล่าว ยืนยันว่าคณะกรรมการฯ จะแบ่งการทำงานเป็นช่วงเวลา2-3-4 ตามที่ได้มีการแถลงรายละเอียดไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอยู่แล้วโดยมีคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน อย่างไรก็ตามตนและคณะกรรมการฯทุกคนตั้งใจทำงาน 100 เปอร์เซ็นต์ และเท่าที่ดูคณะกรรมการฯทุกคนก็เป็นคนดี เราตั้งใจทำงานเพื่อประเทศ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนคาดหวังมานาน 

 

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจ ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมในการติดต่องานกับตำรวจ ทั้งการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบหลากหลายช่องทาง มีการเลือกปฏิบัติ ระหว่างคนจนกับคนรวย อย่างเห็นได้ชัด จึงขอฝากข้อเสนอแนะถึงคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ว่า หากจะแก้ไขปัญหาของเรื่องตำรวจให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมต้องเริ่มจากทำให้ตำรวจปฏิบัติงานโดยยึดหลัก 3 ข้อนี้ให้ได้ คือ ละเว้นการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบทุกรูปแบบ   อำนวยความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ   และดำเนินการให้คดีความต่างๆ เป็นไปอย่างรอบคอบ รวดเร็ว และเป็นธรรม    ส่วนการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ควรยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำงานอยู่บนพื้นฐานของการเป็นตำรวจของประชาชนเพื่อประชาชน มากกว่าการทำงานให้เจ้านายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติพึงพอใจ  

  

ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย  กล่าวว่า การปฎิรูปตำรวจครั้งนี้ ได้รับความคาดหวังจากประชาชนสูงกว่าที่ผ่านมา เพราะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญแต่ตนเป็นห่วงเรื่องการเริ่มต้น กลัวจะตั้งโจทย์ผิด แต่เบื้องต้นแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคสช. กำหนดไว้ ถือว่าถูกทาง เนื่องจากการปฏิรูประดับโครงสร้างสำนักงานตำรวจเเห่งชาติเช่น การกระจายอำนาจยึดโยงกับจังหวัดและท้องถิ่น การแยกอำนาจสอบสวนให้มีความเป็นอิสระการพิจารณาอัตรานายพลที่มีจำนวนมาก เป็นต้นเหตุของปัญหาในสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ พร้อมคาดหวังว่าการปฏิรูปตำรวจจะนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมด้วย

related