เนื้อหอม! "บ๊อช" ขานรับนโยบาย 'ไทยแลนด์ 4.0'

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเนื้อหอม “ค่ายบ๊อช” เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ด้วยการเปิดโรงงานผลิตระบบเชื้อเพลิงใหม่ ไตรมาส 4 พร้อมลุยแผนธุรกิจโซลูซั่น IoT  และพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อน มั่นใจรายได้ปี 2560 เติบโตเหนือตลาดรวม

วันที่ 11 ก.ค.60--นาย โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายประเทศไทย 4.0 มีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ และสอดคล้องกับโมเดลธุรกิจของบ๊อช ที่ตั้งเป้าหมายการเป็นผู้ผลิตด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่น IoT (Internet Of Things) ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยสามารถสร้างความแตกต่างในเวทีเศรษฐกิจระดับโลก

นาย โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทย

สำหรับแผนงานของบ๊อช ในไตรมาส 4 โรงงานผลิตระบบเชื้อเพลิงแห่งใหม่ จ. ระยอง จะแล้วเสร็จโดยบ๊อชตั้งเป้าการเป็นผู้นำในตลาดหัวฉีดเชื้อเพลิง ทั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งในการผลิตจะใช้เทคโนโลยีหัวฉีดเอกสิทธิ์เฉพาะของบ๊อช โดยกระบวนการผลิตส่วนหนึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อ ตามแนวทาง“อุตสาหกรรม 4.0”

 “บ๊อชในประเทศไทยมีการเติบโต เพราะเรามีการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ พร้อมทั้งขยายช่องทางการขาย และขยายกำลังการผลิต ประกอบกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ก็ทำให้ไทยมีศักยภาพและดึงดูดการลงทุนต่อเนื่อง ส่วนนโยบายรถไฟฟ้านั้น ในภาพรวมระดับโลกของบ๊อช มีการลงทุนอยู่แล้ว ส่วนในไทยต้องดูระบบสาธารณูปโภคด้านต่างๆ ซึ่งเราพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ อย่างไรก็ตามตลาดเครื่องยนต์เผาไหม้ยังคงเป็นตลาดหลักในไทยอยู่ แต่ไฟฟ้าก็จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในอนาคต”

 ส่วนแผนงานในระดับโลกกำลังมุ่งไปสู่เทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน ผ่านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ,การขับขี่อัตโนมัติ,เทคโนโลยีเชื่อมต่อ และการผสานโมบิลิตี้โซลูชั่นต่างๆ นอกจากนั้นแล้วเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ก็จะเป็นกุญแจสำคัญ โดยคาดว่าภายในปี 2563 จะมีสิ่งของที่เชื่อมต่อกันได้มากขึ้น และบ๊อชยังเตรียมลงทุนกว่า 300 ล้านยูโร เพื่อพัฒนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ (AI–Artificial Intelligence) ซึ่งบ๊อชคาดว่าอีก 5 ปีสัดส่วนการขาย 10%จะมาจาก AI

 “AIจะเข้ามามีส่วนมากขึ้น และบ๊อชมีศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ เมืองบังคาลอร์ อินเดีย ,เมืองปาโลอัลโต สหรัฐอเมริกา และเมืองเรนนิงเก้น เยอรมนี”

นายฮง กล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตของบ๊อชอยู่ที 3 – 5 % ในระดับโกลบอล ส่วนในประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตมากกว่าตลาดเล็กน้อย ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2559 พบว่ามียอดขายรวมในประเทศไทย11.9 พันล้านบาท หรือ 305 ล้านยูโร คิดเป็นอัตราการเติบโต 10 % เมื่อเทียบกับปี 2558 ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บ๊อชทำยอดขายเพิ่มขึ้น 8.3 % ในปี 2559 คิดเป็นยอดขายรวม 20.8 พันล้านยูโร เติบโต12 % โดยปัจจุบันบ๊อชมียอดขายในเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นสัดส่วน 28 % ของยอดขายทั้งหมด

 “ในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา เราลงทุนในประเทศไทยแล้วกว่า 4 พันล้านบาท และมีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 8% หรือจำนวนกว่า 1,234 คัน โดยในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะโรงงานที่ระยองกำลังจะแล้วเสร็จ นอกจากนั้นแล้วเรายังมีสำนักงานขายและโรงงานผลิต พร้อมด้วยศูนย์การวิจัยและพัฒนาด้านวิศวกรรม”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,277 วันที่ 9 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560