svasdssvasds

2 ผู้บริหารเเหลมเกตซีฟู้ด เจอโทษจำคุก 1,446 ปี เหตุหลอกขายว๊อยเช่อร์โปรบุฟเฟ่ต์

2 ผู้บริหารเเหลมเกตซีฟู้ด เจอโทษจำคุก 1,446 ปี เหตุหลอกขายว๊อยเช่อร์โปรบุฟเฟ่ต์

คุกอ่วม 1,446 ปี 2 ผู้บริหารเเหลมเกตซีฟู้ด ฉ้อโกงประชาชน หลอกขายว๊อยเช่อร์โปรบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดสุดถูก สุดท้ายยกเลิกไม่คืนเงินลูกค้า ปรับ 3.6 ล้าน บ.แหลมเกตุ ให้คืนเงินผู้เสียหายร่วม 2.5 ล้านบาท

เเหลมเกตุซีฟู๊ด วันนี้(10 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก นายอพิชาต หรือโจม บวรบัญชารักษ์ หรือพารุณจุลกะ และ น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา จำเลยที่ 2-3 ในความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน รวม 723 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วน บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด จำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท

คดีนี้พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1-3 ในความผิดร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดคือ นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท กับ น.ส.ประภัสสร ได้เปิดบริษัท แหลมเกตอินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิค ผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซด์ของร้านชื่อ www.laemgate.net กับโปรแกรมแชทไลน์ Line:@laemgate ว่า

จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุดๆละ 880 บาท มี 10 ที่นั่งๆ ละ 88 บาท , “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท , “โปรแฟนพันธุ์แท้” ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆละ 100 บาท และโปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น

โดยลูกค้า ต้องจองคิววันที่จะเข้าไปทานอาหาร ผ่านทางระบบออนไลน์ของร้าน ซึ่งให้ผู้ที่สนใจโอนเงินเข้า บัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0401759603 ชื่อ บัญชี บจก.แหลมเกต อินฟินิท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก

ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.62 ทางร้านอาหารแหลมเกต อินฟินิท ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์ และเฟซบุ๊ก ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเกินความคาดหมายทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการเพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกองคำรับสารภาพเเล้วพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) การ กระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณหรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จกับฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนมีอัตราโทษเท่ากัน

จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2-3 ทุกกระทง กระทงละ 2 ปีรวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 723ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2)จำเลยที่ 1 คงปรับ 1,807,500 บาท หากจำเลยที่ 1ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทเเก่เจ้าของ

related