"ศิริชัย" ยันทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจดีมาตลอด

วันที่ 12 ก.ค.60--ที่ ศาลอุทธรณ์: นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงข่าวกรณีที่มีกระแสข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต.มีมติให้ย้ายตนไปเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา รวมทั้งมีกระแสข่าวว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการกล่าวหาตนมีปัญหาการบริหารศาลอุทธรณ์

นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์

นายศิริชัย ระบุว่า ตนยังไม่ได้เห็นหนังสือคำสั่งหรือมติ กต.อย่างเป็นทางการ แต่ทราบจากสื่อที่มีการนำเสนอ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง โดยขอชี้แจงเรื่องที่ตนจะถูกตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องการบริหารงานว่าสมัยตนเป็นผู้พิพากษาอยู่ต่างจังหวัด จนตนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลอุทธรณ์เมื่อปี 2558 ตนขยันและซื่อสัตย์ ทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด และได้รับการคาดหวังว่าหากปฏิบัติหน้าที่อย่างดี จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกาตามขั้นตอน โดยศาลอุทธรณ์ขณะนี้ไม่มีคดีใดตกค้างทุกคดีเป็นปัจจุบัน เนื่องจากที่ผ่านมาตนพยายามปรับการทำงานของศาลอุทธรณ์ เช่น ลดค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปาของศาลอุทธรณ์ได้ปีละ 1 ล้านบาท และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ลดใช้กระดาษในการเขียนคำพิพากษา ซึ่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ก็ร่วมมืออย่างดี 

ส่วนมติการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาของ กต.ครั้งนี้ ตนยังไม่แน่ใจว่าจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงหากตนไปเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาจริง เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องลำดับอาวุโสในการทำหน้าที่ อีกทั้งตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาเป็นตำแหน่งใหม่ที่ยังไม่มีความชัดเจน และแม้ตนจะไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ก็ยังพร้อมทำหน้าที่ประธานศาลอุทธรณ์ต่อไป เพราะตำแหน่งรองจากประธานศาลฎีกา คือประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งตามระเบียบประธานศาลอุทธรณ์มีวาระ 2 ปี หากขึ้นตำแหน่งใหม่ไม่ได้ ก็สามารถอยู่ตำแหน่งเดิมได้เกินวาระ

อย่างไรก็ตาม ตนต้องรอดูเอกสารคำสั่งของ กต.อีกครั้ง เนื่องจากยังไม่เห็นหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการ แต่ทราบจากสื่อมวลชนที่มีการนำเสนอข่าวสารซึ่งส่วนตัวก็เชื่อว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ จึงออกมาแถลงข่าวเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริง 

ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าว นายศิริชัย เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า กรณีดังกล่าวทำให้ตนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว และมีบางเรื่องที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมย้ำตนรักสถาบันตุลาการมาก เพราะทำงานมานานกว่า 40 ปี