svasdssvasds

ค่าเอฟทีปรับขึ้นต่อเนื่อง ลากยาวถึงปีหน้า เหตุราคาก๊าซฯยังพุ่ง

ค่าเอฟทีปรับขึ้นต่อเนื่อง ลากยาวถึงปีหน้า เหตุราคาก๊าซฯยังพุ่ง

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันนี้ (13 ก.ค. 60) - หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,278 วันที่ 13-15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 สื่อในเครือสปริง กรุ๊ปรายงานว่าประชาชนอ่วม ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นต่อเนื่อง กกพ.เผยรอบก.ย.-ธ.ค. ปรับใกล้เคียงที่ 10 สต.ต่อหน่วย และลากยาวไปถึงต้นปีหน้า แจงเหตุราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูง แถมต้องใช้นํ้ามันเตาและดีเซล เป็นเชื้อเพลิงจากแหล่งเจดีเอหยุดซ่อม

ในการพิจารณาการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับเดือนกันยายน-ธันวาคม 2560 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 กรกฎาคม นี้ มีความเป็นไปได้ว่า จะปรับขึ้นค่าเอฟทีไม่เกิน 10 สตางค์ต่อหน่วย หลังต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้น 5-6 บาทต่อล้านบีทียู เทียบกับงวดก่อน (พ.ค.-ส.ค. 60) อยู่ที่ 245 บาทต่อล้านบีทียู แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเล็ก?น้อย จากเดิม 34.56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 34.19 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม 

ค่าเอฟทีปรับขึ้นต่อเนื่อง ลากยาวถึงปีหน้า เหตุราคาก๊าซฯยังพุ่ง  

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มค่าเอฟทีงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2560 จะปรับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 สตางค์ต่อหน่วย สาเหตุมาจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 5-6 บาทต่อล้านบีทียู แต่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย รวมถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ไม่เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.2 หมื่นเมกะวัตต์ แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดปีนี้อยู่ที่ 3.03 หมื่นเมกะวัตต์ จึงส่งผลให้ค่าเอฟทีปรับขึ้นไม่มากนัก จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.5079 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ จากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่นำเสนอข้อมูลค่าเอฟทีในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2560 ภายใต้สมมติฐานราคาเชื้อเพลิงและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ในระดับเดียวกับที่ใช้ในการคำนวณค่าเอฟทีงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560 พบว่ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 13.84 สตางค์ต่อหน่วย

“ค่าเอฟทีงวดเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ จะปรับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งปัจจัยหลักน่าจะมาจากราคาก๊าซธรรมชาติ ที่นำมาคำนวณย้อนหลังไป 6-12 เดือน มีต้นทุนสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา จึงช่วยลดต้นทุนการจัดซื้อเชื้อเพลิงได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้กกพ.พยายามที่จะบริหารจัดการ โดยจะนำเงินค่าปรับและค่าชดเชยต่างๆ ที่ได้รับจากการบริหารสัญญาจัดหาเชื้อเพลิงและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่างๆ มาช่วยลดค่าเอฟที เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนมากจนเกินไป”

อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามนโยบายของภาครัฐหลัง?จากนี้ไม่น่าจะเข้ามากระทบมากนัก จากปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนในค่าเอฟทีอยู่ประมาณ 21 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ที่เริ่มรับซื้อใหม่ในช่วงนี้จะทยอยเข้าระบบในช่วงปี 2561-2563

ค่าเอฟทีปรับขึ้นต่อเนื่อง ลากยาวถึงปีหน้า เหตุราคาก๊าซฯยังพุ่ง

นายวีระพล กล่าวอีกว่า ส่วนแนวโน้มของค่าเอฟทีในปีหน้านั้น มองว่ายังมีทิศทางขาขึ้นต่อไป ตามการปรับราคาตามสัญญาก๊าซฯ ทั้งอ่าวไทยและจากเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการปิดซ่อมเจดีเอ-เอ18 เป็นระยะเวลาประมาณ 17-18 วัน นับตั้งแต่ปิดซ่อมไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา จะนำไปคำนวณในค่าเอฟทีงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2561 และเมื่อรวมกับต้นทุนก๊าซที่จะเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้ค่าเอฟทีงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2561 ปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“แนวโน้มค่าเอฟทีจากนี้ไปจะปรับตัวต่อเนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงเหตุปิดซ่อมเจดีเอ-เอ18 ซึ่งต้องใช้นํ้ามันเตาและนํ้ามันดีเซลผลิตไฟฟ้า” นายวีระพล กล่าว

related