สอบเส้นทางการเงิน "วรยุทธ สังหลัง" ผู้ใหญ่บ้านถูกฆ่ายกครัว โยงปมโรงโม่หิน

วันนี้ (14 ก.ค. 60) - ทีมข่าวสปริงนิวส์ ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวชุดสืบสวน คดีฆ่าโหดนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง จังหวัดกระบี่ พร้อมครอบครัว เสียชีวิต 8 ศพว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน สั่งการให้ตำรวจกองปราบปราม เร่งทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายวรยุทธ ผู้ตาย ที่มีความเกี่ยวพันกับธุรกิจโรงโม่หิน ของ หจก.ตรังภูทอง และบริษัทอ่าวลึก ศิลาทอง จำกัด (ข้อมูล : เป็นบริษัทเดียวกัน) เนื่องจากเพื่อนสนิทของนายวรยุทธ คือ นายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา หรือโกเสริฐ มีรายชื่อเป็นกรรมการลำดับที่ 2 ของบริษัทอ่าวลึก ศิลาทอง จำกัด

เบื้องต้นพบว่า 1-2 ปีที่ผ่านมา เงินในบัญชีของนายวรยุทธ มีการทำธุรกรรมการเงินผิดสังเกต ทั้งการโอนเงินเข้าและออก ครั้งละหลักแสนบาท  ซึ่งการถอนเงินมากที่สุด เป็นจำนวนหลักล้านบาท เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเชิงลึกว่า นายวรยุทธ ได้นำเงินหลักล้านบาท มาเก็บไว้ที่บ้านหรือไม่ โดยประเด็นนี้ ชุดสืบสวนได้ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่แรกว่า กลุ่มคนร้ายมีการค้นหาสิ่งของบางอย่าง ภายในบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือสังหารเหยื่อถึง 8 คน เพื่อบีบให้นายวรยุทธ คลายข้อมูลบางอย่างหรือไม่

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ล่าสุดชุดสืบสวน เตรียมออกหมายเรียก ให้นายเชษฐ์ดนัย เข้ามาให้ข้อมูลอีกครั้ง หลังติดใจเรื่องเส้นทางการเงิน และข้อมูลระหว่างนายวรยุทธ กับหญิงสาวที่เข้ามาติดพัน โดยก่อนหน้านี้นายเชษฐ์ดนัย เข้าให้ปากคำตำรวจแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรก เจ้าตัวเดินทางเข้าพบตำรวจระดับชั้นนายพัน ด้วยตัวเอง (ไม่มีการเชิญตัว) หลังทราบเหตุ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม และครั้งที่ 2 ชุดสืบสวน เชิญตัวไปสอบถามข้อมูลเรื่องโรงโม่หิน ของบริษัทอ่าวลึก ศิลาทอง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมโดยครั้งนั้นนายเชษฐ์ดนัย ให้ข้อมูลกับตำรวจ ในลักษณะเดียวกับที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักว่า รู้จักกับผู้ตาย ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เป็นเพื่อนสนิทกันมาก เมื่อโตขึ้นมา ก็ร่วมทำธุรกิจด้วยกัน โดยนายวรยุทธ จะช่วยดูแลและประสานงานเรื่องธุรกิจในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่

โดยในวันก่อนเกิดเหตุ ได้มอบหมายให้นายวรยุทธ เดินทางไปทำธุระเรื่องงานให้ที่กรุงเทพฯ และมีการพูดคุยทางโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา จนในวันเกิดเหตุ นายวรยุทธ ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพฯ กลับมายังกระบี่ และเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการตั้งโรงโม่หินนั้น พื้นที่ตั้งโรงโม่หิน ก็อยู่ในพื้นที่สวนปาล์มของตนเอง และมีการขอประทานบัตรถูกต้องทุกอย่าง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกรมศิลป์มาตรวจสอบพบวัตถุโบราณ จึงทำให้ยังเปิดไม่ได้ และมีเสียงคัดค้านจากชาวบ้านในพื้นที่ด้วย และขอยืนยันว่า ตนเองและนายวรยุทธ ไม่ได้มีปัญหากับหุ้นส่วนรายใหญ่แต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายเชษฐ์ดนัย และนายวรยุทธ มีชื่อเป็นกรรมการบริหาร บริษัท กระบี่ ภูทรัพย์อนันต์ ที่ทำธุระกิจเกี่ยวกับโรงโม่เช่นกัน  ซึ่งเรื่องนี้นายเชษฐ์ดนัย ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้บอกเรื่องตนเอง เป็นกรรมการบริษัทอ่าวลึก ศิลาทอง จนถูกเชิญตัว ให้ข้อมูลครั้งที่ 2