ทั่วโลกเสียใจ... การจากไป 'หลิว เสี่ยวโป'

นายหลิว เสี่ยวโป นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยชื่อดังชาวจีน เจ้าของรางวัลโนเบล สันติภาพ เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวานนี้ ด้วยวัย 61 ปี หลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ขณะที่ทั่วโลกร่วมแสดงความเสียใจและประณามรัฐบาลจีน ที่ไม่อนุญาตให้นายหลิว เสี่ยวโป เดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ

วันที่ 14 ก.ค.60--- คณะแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเสิ่นหยาง แถลงว่า นายหลิว เสี่ยวโป วัย 61 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อวานนี้(13 ก.ค.) จากระบบการทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลว และความพยายามช่วยชีวิตของคณะแพทย์และพยาบาลไม่สำเร็จ แม้ว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม 

ด้านข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของนายหลิว และว่านายหลิวจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจแก่นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนต่อไป เช่นเดียวกับทางการไต้หวัน สหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนี ที่ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายหลิวเช่นกัน 

ขณะที่คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลสันติภาพ ระบุว่า รัฐบาลจีนต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรของนายหลิว ขณะที่มีประชาชนในหลายประเทศร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยผู้นี้ 

ด้านนายอ้าย เว่ยเว่ย ศิลปินและนักเคลื่อนไหวชาวจีน ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศเยอรมนี ว่า นายหลิว เสี่ยวโป ไม่ใช่อาชญากร และการเสียชีวิตของนายหลิว เป็นบทพิสูจน์ความเหี้ยมโหดของรัฐบาลจีน 

อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของนายหลิว เสี่ยวโป เป็นการจุดประกายความหวังของใครหลาย ๆ คน 

ส่วนนายเฉิน กวงเฉิง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวจีน ที่ตอนนี้เดินทางไปลี้ภัยในสหรัฐ รู้สึกโกรธแค้นอย่างมากกับการเสียชีวิตของนายหลิว เสี่ยวโป ที่จบชีวิตลง เพราะทางการจีนไม่อนุญาตให้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายที่ต่างประเทศ นายเฉิน กวงเฉิง ยังได้ร่วมประสานเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลจีนปล่อยตัวภรรยาของนายหลิว เสี่ยวโป และอนุญาตให้เธอเดินทางไปลี้ภัยต่างประเทศ 

นายหลิว เสี่ยวโป ถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 11 ปี เมื่อปี 2552 โทษฐานเป็นแกนนำเคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูประบอบการปกครองประชาธิปไตยในจีน ด้วยการออกแถลงการณ์ "กฎบัตร 08" แต่ในระหว่างที่เขารับโทษในเรือนจำมณฑลเหลียวหนิง คณะกรรมการรางวัลโนเบลได้มอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ให้แก่นายหลิวในปี 2553 เพื่อยกย่องการต่อสู้อันยาวนานโดยปราศจากความรุนแรงของเขา 

ขณะที่ประชาคมโลกออกมาเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัวนายหลิวอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทางการจีนยอมปล่อยตัวนายหลิวออกจากเรือนจำ หลังได้รับการตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเสิ่นหยาง โดยไม่ยอมให้เขาไปรักษาอาการยังต่างประเทศตามที่หลายประเทศเรียกร้อง และยืนยันว่าโรงพยาบาลในจีนดูแลรักษาอาการป่วยของเขาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งให้เหตุผลว่า นายหลิวไม่แข็งแรงพอที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้