ปปป. พบเครือข่ายทุจริตเงินทอนวัดเพิ่ม 10 ราย 

ปปป. เตรียมประสานผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเครือข่ายทุจริตเงินอุดหนุนวัดเพิ่มอีกเกือบ 10 ราย โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาได้ภายในเดือนสิงหาคม

วันที่ 19 ก.ค. 60 - ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เตรียมประสานผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้เกี่ยวข้องเครือข่ายทุจริตเงินอุดหนุนวัดเพิ่มเติมอีกเกือบ 10 ราย แบ่งเป็นข้าราชการ พศ.  อดีตข้าราชการ พศ. รวมทั้งไวยาวัจกรวัด ส่วนจะมีพระเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ข้อมูลยังไม่แน่ชัด 

ขณะที่การสืบสวนในเฟส 2 เบื้องต้นที่ตั้งเป้าตรวจสอบ 27 วัดทั่วประเทศ ได้ขยายผลตรวจสอบแล้ว 30 วัด พบการทุจริตเกิน 80% วงเงินทอนราว 50 ล้านบาท  และอยู่ระหว่างขยายผลอีก เป็น 40 วัด คาดว่าจะมีวงเงินทุจริตอาจสูงถึง 60 ล้านบาท ซึ่งการสืบสวนตำรวจพบว่าเจ้าอาวาสวัดส่วนใหญ่ถูกหลอกให้รับโอนเงินจากเครือข่ายการทุจริต ซึ่งตำรวจ ปปป. อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบ 

โดยสำนวนการทุจริตในเฟส 2 คาดว่าจะประสานให้ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เข้าร้องทุกข์กับ ปปป. ภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนที่ ปปป. จะสรุปสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ภายในเดือนสิงหาคม  โดยระหว่างนี้ตำรวจ ปปป. ยังอยู่ระหว่างการขยายผล เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน กับผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย

ด้าน พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ได้โพสต์ เฟซบุ๊กว่า มีใครสงสัยบ้างเอ่ย ว่า ทำไมคนระดับเจ้าคุณเอื้อน พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงกรรมการมหาเถรสมาคม ถึงได้รุ่มร้อนทุรนทุรายกับการตรวจสอบเงินทอนวัด เนื่องจาก ได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ ไปไม่ใช่น้อย โดยเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.56 ได้รับเงินอุดหนุน 5 ล้านบาท, ต่อมาวันที่ 13 ก.พ.57 ได้รับเงินอุดหนุน 5 แสนบาท, และวันที่ 19 ก.พ.57 ได้รับเงินอุดหนุน 7 ล้านบาท และยังได้รับเงินอีกหลายครั้ง