ผู้ส่งออกถูกคู่ค้าปรับ400ล้านบาท ส่งมอบข้าวโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้

ผู้ส่งออกที่ได้รับความเสียหายจากการประมูลโครงการรับจำนำข้าว เรียกร้องนายกรัฐมนตรีเร่งดำเนินคดีกลุ่มคนทุจริต โดยผลที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องถูกคู่ค้าเรียกค่าปรับกว่า 400 ล้านบาท และเสียชื่อเสียง หลังผิดสัญญาส่งมอบข้าวไม่ได้

วันนี้ (20 ก.ค. 60) - นายจงรักษ์ เหล็กหนูดำ ทนายความบริษัทซิงตั๊ก กรุ๊ป ซึ่งได้ที่รับความเสียหายจากการประมูลข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวในสต็อกรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทชนะประมูลข้าวในสต็อกของรัฐในช่วงกลางปี 2559 เป็นครั้งแรก ก็เกิดปัญหาขึ้นทันที เมื่อต้องไปเปิดโกดังเก็บข้าวเพื่อส่งมอบข้าวให้กับผู้สั่งซื้อจากรัฐวิสาหกิจจีน

ซึ่งเงื่อนไขกำหนดการประมูลข้าวเหนียวแบบยกคลัง แต่กลับพบว่าข้าวในโกดังมีข้าวเหนียวอยู่เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นข้าวชนิดอื่นปลอมปน ทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบข้าวให้ผู้สั่งซื้อจากจีนรายนี้ได้ตามสัญญา จึงถูกเรียกเงินค่าปรับเป็นเงิน 406 ล้านบาท อีกทั้งยังขึ้นบัญชีดำกับบริษัทฯโดยจะไม่ขอร่วมทำการค้าด้วยอีกต่อไป ทำให้บริษัทต้องเสียหายและเสียเครดิต ในวงการค้าข้าวในต่างประเทศ

นายจงรักษ์ กล่าวอีกว่าหลังจากเกิดปัญหาขึ้น จึงได้ยื่นฟ้องศาลแพ่งเพื่อให้กรมการค้าต่างประเทศ และ องค์การคลังสินค้า รับผิดชอบความเสียหายให้กับบริษัทฯเป็นเงิน 571 ล้านบาท แต่คดียังไม่คืบหน้า จึงเตรียมยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้ความช่วยเหลือในเดือนกรกฎาคมนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯยังยื่นฟ้องแพ่ง ให้บริษัท สุพรีมไลฟ์เอเจนซี่ ซึ่งเป็นคลังเก็บข้าวปลอมปนนี้ และโรงสีอีก 17 โรงที่ส่งข้าวให้คลังสุพรีมไลฟ์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 571 ล้านบาทอีกด้วย