svasdssvasds

อายัด "EARTH" ไต่สวนฟื้นฟู 18 ก.ย. มึนหนี้งอก 4.7 หมื่นล้าน

อายัด "EARTH" ไต่สวนฟื้นฟู 18 ก.ย. มึนหนี้งอก 4.7 หมื่นล้าน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ผงะ! เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ยื่นฟื้นฟูมูลหนี้งอก 4.7 หมื่นล้านบาท มากกว่าที่แจ้งงบไตรมาสแรกเท่าตัว “กรุงไทย” ตามอายัดเงินทันควัน 800 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯเต้นสั่งแจงด่วน ศาลนัดไต่สวน 18 กันยายน

บริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 มีมติอนุมัติบริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 เนื่องจากภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว และยื่นขอให้บริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ

 บริษัทเอิร์ธฯ ระบุว่า เหตุผลของการขอยื่นฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัทผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งในบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหมด เจ้าหนี้สถาบันการเงินรายหนึ่งได้เรียกให้บริษัทชำระหนี้ที่ค้างอยู่ตามเงื่อนไขการให้สินเชื่อ ซึ่งบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวตามที่ถูกเรียกร้องมาได้ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่ 

อายัด "EARTH" ไต่สวนฟื้นฟู 18 ก.ย. มึนหนี้งอก 4.7 หมื่นล้าน

 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัทและส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลง ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการเรียกร้องค่าเสียหายอื่นๆจากคู่ค้าของบริษัท ทำให้บริษัทอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน และจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด

แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเอิร์ธฯยื่นมูลหนี้ต่อศาลล้มละลายกลางจำนวน 4.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นมูลหนี้ที่สูงกว่าที่บริษัทเอิร์ธฯ แจ้งงบการเงินไตรมาส 1/2560 ต่อตลาดหลัก ทรัพย์ฯว่ามีหนี้สินรวม 2.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ขณะที่สินทรัพย์รวม 3.57 หมื่นล้านบาท โดยศาลนัดไต่สวนวันที่ 18 กันยายน 2560 

 เจ้าหนี้ของบริษัทเอิร์ธฯ ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทยจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 3,800 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1,200 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) จำนวน 350 ล้านบาท

 นอกจากนี้ยังมีหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น(บี/อี) ที่ครบกำหนดชำระในเดือนสิงหาคมนี้จำนวน 520 ล้านบาท หุ้นกู้ 2 ชุด ครบกำหนดชำระเดือนธันวาคม 2560 จำนวน 1,500 ล้านบาท และ หุ้นกู้ชุดที่ 2 ครบกำหนดชำระเดือนตุลาคม 2562 จำนวน 4 พันล้านบาท

 ขณะที่แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างไล่เช็กบิลผู้บริหารเก่าโดยเฉพาะทีมบริหารที่ปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทเอิร์ธฯและอีกหลายบริษัทในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้กู้และทำให้ธนาคารเสียหาย ซึ่งกรณีของบริษัทเอิร์ธฯ ธนาคารกรุงไทย ได้สั่งอายัดเงินจำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะโอนไปชำระค่าถ่านหิน 

อายัด "EARTH" ไต่สวนฟื้นฟู 18 ก.ย. มึนหนี้งอก 4.7 หมื่นล้าน

 รายงานข่าวระบุว่า เงินจำนวน 800 ล้านบาทที่ธนาคารกรุงไทยสั่งอายัดนั้น เป็นบัญชีเงินกู้ที่ธนาคารธนชาต ได้เปิดให้แก่บริษัทเอิร์ธฯ เป็นการอายัดเงินของเจ้าหนี้หลังจากบริษัทเอิร์ธฯเข้าฟื้นฟูกิจการ

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งให้บริษัทเอิร์ธฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีการยื่นฟื้นฟูกิจการใน 3 ประเด็น ได้แก่1.ให้บริษัทเอิร์ธฯ อธิบายว่ามีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินอย่างไร 2.รายละเอียดของมูลหนี้ โดยแยกเป็นแต่ละกลุ่มเจ้าหนี้ และ 3. ในส่วนของทรัพย์สิน มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สินหรือไม่ อย่างไร โดยให้ชี้แจงกลับมาภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560

 บริษัทเอิร์ธฯ ยังได้แต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ลาออก มีผลตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2560 ประกอบด้วย นางสาวภารดี เตียววณิชกุล เป็นกรรมการแทนนางสาวกาญจนา จักรวิจิตโสภณ นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง เป็นกรรมการบริษัท แทนนางธัญกมล ตริตระการ โดยให้นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง เป็นประธานกรรมการ แทนนายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์

แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจ กล่าวว่า กรณีของบริษัทเอิร์ธฯ เป็นกรณีศึกษาของธุรกิจซื้อมาขายไป หรือเทรดดิ้ง ที่ต้องพึ่งพาเงินกู้สถาบันการเงิน และถูกตัดท่อนํ้าเลี้ยงซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจชะงักเสียหายต่อบริษัทคู่ค้า ในที่สุดต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ 

 ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ”ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ แต่ไม่มีการตอบข้อซักถามแต่อย่างใด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,282 วันที่ 27 - 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

related