กรมชลฯ ยัน! "เขื่อนไม่แตก"

กรมชลฯ เผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ พร้อมยืนยัน เขื่อนไม่แตก

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน

วันที่ 31 ก.ค.60--นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ว่า ภายหลังจากเกิดพายุโซนร้อนเซินกา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์น้ำในจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 7 อำเภอ โดยกรมชลประทานจะเร่งระบายน้ำออกทางหนองหาร ลำน้ำก่ำ ก่อนผันลงแม่น้ำโขง โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำจํานวน 10 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันนํ้าในลํานํ้าก่ำ จํานวน 26 เครื่อง เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็ว ซึ่งหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์ 

ส่วนที่มีกระแสเขื่อนห้วยขมิ้นแตกนั้น ชี้แจงว่า ลักษณะดังกล่าวไม่ใช่ภาวะเขื่อนแตก แต่เป็นลักษณะที่เขื่อนมีการรับน้ำเข้ามามากกว่าอัตราการระบายออก ทำให้มีปริมาณน้ำล้นแนวสันเขื่อนและไหลข้ามสันเขื่อน จึงเกิดการกัดเซาะท้ายเขื่อนและเกิดการทรุดตัว ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น แต่ลักษณะเขื่อนแตกเป็นการที่ปริมาณน้ำยังไม่ถึงแนวสันเขื่อนแต่มีการรั่วหรือวิบัติของเขื่อนเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ ทางกรมชลประทานได้แจ้งเตือนไปยังจังหวัดสกลนครให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำแล้ว แต่เนื่องจากปริมาณน้ำฝนจากอิทธิพลของพายุเซินกา มีมากกว่าที่คาดไว้มาก คือ ฝนที่ตกติดต่อกัน 3 วัน มีปริมาณน้ำกว่า 400 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28% ของปริมาณฝนที่ตกทั้งปีของจังหวัดสกลนครโดยเฉลี่ย ถือเป็นฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบ 40 ปี