"สภาใหม่" คืบ 38 % คาดปี62 สร้างเสร็จแน่!

เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำสื่อลงพื้นที่ดูความคืบหน้าสร้างสภาใหม่ เสร็จแล้วร้อยละ 38  คาดสิ้นปี 2562 เสร็จแน่ ขณะที่ ผอ.โครงการ เตรียมขออนุมัติอีก 8,000 ล้าน สร้างระบบเทคโนโลยี และสาธารณูปโภค เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีที่โครงสร้างเสร็จ

วันที่ 4 ส.ค.60--นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำสื่อมวลชน เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสัปปายะสภาสภาน หรือ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย และเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ร้อยละ 38  และคาดว่า โครงสร้างทั้งหมดจะเสร็จภายในสิ้นปี 2562 พร้อมยืนยันว่าในช่วงที่เข้ามาดูแลโครงการนั้น เป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริต 

ขณะที่ นายพีระ นาควิมล ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า แม้ในสิ้นปี 2562 โครงสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่แล้วเสร็จ แต่ยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ เนื่องจากยังมีงานอีก 2 ส่วนที่จะต้องดำเนินการ คือ งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานสาธารณูปโภค ที่จะต้องงบประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่ยังไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ จึงจะต้องขออนุมัติเพิ่มจากคณะรัฐมนตรี เนื่องจากตอนที่ทำสัญญา ได้มีการตัดงบประมาณในส่วนนี้อออกไป เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอในการทำสัญญาก่อสร้างเบื้องต้น

นายพีระ ยังชี้แจงปัญหาที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าว่า เนื่องจากติดขัดในเรื่องการส่งมอบพื้นที่จากโรงเรียนโยธินบูรณะ 940 วัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะต้องใช้สนับสนุนการก่อสร้าง เพื่อประกอบโครงสร้างหลังคา และยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก อาทิ การก่อสร้างอาคารใต้ดินที่ติดขัดเรื่องการขนถ่ายดิน และการก่อสร้างห้องสุริยัน และห้องจันทรา ที่จะใช้เป็นห้องประชุม ส.ส. และส.ว. เนื่องจาก โครงสร้างหลังคาห้องประชุมดังกล่าว มีน้ำหนักถึง 2,500 ตัน โดยไม่สามารถใช้เครื่องจักรหนักติดตั้งได้ และยังจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เมื่อติดตั้งแล้วจะไม่มีการรื้อถอนใหม่ เพราะโครงสร้างดังกล่าวมีลักษณะเป็นรูปซาลาเปาคว่ำ และเอียงข้างด้วย ส่วนการก่อสร้างเครื่องยอดอาคารนั้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการก่อสร้างได้ โดยใช้เวลาถอดแบบ 18 เดือน และติดตั้ง 12 เดือน 

สำหรับกรณีที่ฝ่ายการเมืองระบุว่ามีการทุจริตในโครงการนี้จึงทำให้เกิดความล่าช้านั้น นายพีระ ปฏิเสธ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และหากฝ่ายการเมืองมีข้อมูลว่าทุจริตในส่วนใด ขอให้ระบุให้ชัดเจน และแจ้งความดำเนินคดี เพราะตนในฐานะผู้ดูแลโครงการ พร้อมให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจสอบ และขอยืนยันว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการเดือนเมษายน 2556 จนถึงปัจจุบันโครงการนี้ ถือเป็นโครงการที่สะอาดที่สุดที่เคยเจอ