อรอนงค์ เผยชีวิตหลังหย่าใช้ธรรมมะแก้ปัญหาโรคซึมเศร้า

อร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ อดีตนางสาวไทยที่ผ่านชีวิตรักมาอย่างทรหดและเคยเป็นข่าวโด่งดังหลังเลิกรากับสามีแบบช็อกวงการ แถมยังต้องมาเจอประเด็นดราม่า งานหดเดินหน้าเป็นแม่ค้าเปิดท้ายขายของ หาเงินเลี้ยงลูก 2 คนเพียงลำพัง

ล่าสุด อร อรอนงค์  ขอมาเปิดใจถึงมรสุมชีวิตรัก พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ความรักเป็นบทเรียนให้กับทุกคนอีกครั้ง ผ่านรายการดัง Z story ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 ให้เป็นตัวอย่างกับหลายๆ คนที่กำลังเผชิญปัญหาการเลิกราและหย่าร้างแบบประสบการณ์ตรงที่เจ้าตัวได้ประสบพบเจอมากับตัวเอง

กว่าจะผ่านมรสุมชีวิตรักหลังการหย่ามันยากแค่ไหน ?

"ต้องใช้เวลาค่ะ สำหรับพี่อรตอนนี้ถือว่าแข็งแรงดี เพราะมีลูกเป็นกำลังใจ และคนในครอบครัวของเราคอยซัพพอร์ตเป็นกำลังใจให้อย่างดี ที่สำคัญเลยพี่อรว่า เราเองควรมีกำลังใจให้ตัวเอง ขาเราต้องแข็งแรงก่อน จิตใจของเราต้องเข้มแข็ง แล้วจะต้องลุกขึ้นสู้กับเรื่องร้ายๆ เพื่อให้คนในครอบครัวของเรามีความสุข เราต้องอยู่ให้ได้กับการไม่มีเขา พี่ว่าถ้าพี่ไม่มีลูก ก็คงเป็นโรคซึมเศร้าคิดร้ายกับตัวเอง อาจจะหนักไปแล้ว"

"คือหนึ่งเลยที่หนักสำหรับพี่ คือพี่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักมาก่อน และเป็นผู้ชายคนเดียวคนแรกที่แต่งงานเลย พี่ไม่เคยรู้จักความอกหักเลย มันเป็นอกหักครั้งใหญ่ต้องสตรองมาก ต้องขอบคุณหลายยิ่งหลายอย่างมีสติ เป็นโชคดีของเราที่ได้เคยศึกษาธรรมมะมา มันทำให้เราอยู่กับตัวเอง โชคดีที่มีสติในหลักธรรม ไม่ต้องไปยึดติด มองให้เป็นสัจธรรม"

"ในสังคมมันก็ต้องหลายคู่ที่ต้องเลิกกัน เอามาเป็นประสบการณ์เอามากลั้นกรอง ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะเป็นเมียน้อย อยากจะเลิกกับสามี ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะเป็นคนแม่เลี้ยงเดี่ยว เหตุการณ์ทุกอย่างเราไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สามารถทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง"

ลูกเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับพี่อรมากเลยใช่ไหม?

"ลูกคือกำลังใจที่ดีมาก ปัญหาหลายคนที่เจออาจจะไม่เหมือนกัน พี่โชคดีมากที่มีลูก อย่างประสบการณ์ของพี่ถือว่าหนักเหมือนกัน เขาเป็นแฟนคนแรกของพี่ และคนเดียวในชีวิต เราคบกันมา 7 ปี และก็หมั้นกันมาก่อนแต่ง ครึ่งหนึ่งของชีวิต รู้จักกันมาตั้งแต่เราอายุ 21 ปี เรียนหนังสือปีหนึ่ง เป็นแฟนคนแรก พี่อรยังโชคดีที่เราเจอการหย่าร้าง แต่ว่าเรายังมีที่ยึดเหนี่ยว มีลูกทั้งสองคนเคียงข้างเรา และก้าวเดินไปพร้อมกัน ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นลูกๆ ถือว่าเป็นพลังที่ดีให้พี่เดินก้าวไปได้อย่างดีมากเลย"

"ถ้าไม่มีประสบการณ์แย่ๆ มันก็ไม่ทำให้เราแข็งแรงและเติบโต ก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์แย่ๆ ในครั้งนี้ ที่เป็นบทเรียนให้เรา เราเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา แต่เมื่อวันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องลุกเดินก้าวเดินต่อไป ในอนาคตมันยังต้องมีเรื่องราวที่ดีที่สดใส และดีขึ้นต่อๆ ไปด้วย ที่สำคัญเลยที่สุดพี่อรคิดว่าจิตใจของเราต้องเข้มแข็ง ต้องอดทนฝันฝ่าผ่านมันไปให้ได้ พี่อรเชื่อว่าถ้าเราทำดีแล้วสิ่งดีๆ ต่างๆ มันก็จะตามมาเอง ถ้าเราไม่ไปคิดร้ายกับใคร"