svasdssvasds

“บิ๊กตู่” เตือนจัดเซอร์ไพรส์ มธ.อย่ากระทบสถาบัน ยัน รับฟังเสียงทุกฝ่าย

“บิ๊กตู่” เตือนจัดเซอร์ไพรส์ มธ.อย่ากระทบสถาบัน ยัน รับฟังเสียงทุกฝ่าย

นายกรัฐมนตรี เตือนจัดเซอร์ไพรส์ งานรับปริญญามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่าละเมิดสถาบัน วอนผู้ชุมนุม ให้เคารพสิทธิผู้อื่นในที่สาธารณะด้วย และตนเคารพ นายกฯ อานันท์ เสมอมา

“บิ๊กตู่” เตือนจัดเซอร์ไพรส์ มธ.อย่ากระทบสถาบัน ยัน รับฟังเสียงทุกฝ่าย

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 1/2564 ร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมจัดเซอร์ไพรส์ในงานพระราชทานปริญญาบัตร ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ ในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) ว่า เป็นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านเป็นประจำ วัฒนธรรมประเพณีมีมายาวนาน ตนคงไม่ต้องสั่งการให้มีการเตรียมการอะไรเพิ่มเติม เป็นระเบียบปฏิบัติที่ถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ของเขาอยู่แล้วตามกฎหมาย เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะกระทำ

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุมปิดถนนมิตรภาพ นายกรัฐมนตรี เผยว่า ทำได้ก็ทำไป แต่ผมเรียนว่า สังคมต้องช่วยดูแลตรงนี้ด้วย เพราะคนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่ผม อะไรก็แล้วแต่เหตุผลมาอ้างที่ผมทั้งนั้น คนที่ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน การสัญจรไปมา การขนส่งสินค้า เป็นปัญหาทั้งหมดในวันนี้ เพราะฉะนั้นก็กรุณา ถ้าดีก็ไม่ควรจะกระทำในพื้นที่สาธารณะ ผมคิดว่าก็จะเกิดความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ และเข้าใจว่าการชุมนุมก็ต้องทำอย่างนี้ ทุกคนต้องระมัดระวังซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมาย ให้เกิดความเป็นธรรม จะบอกว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมไม่ได้ ถ้าไม่มีความผิดก็ไม่มีคนที่ถูกบังคับใช้กฎหมาย ขอให้เข้าใจตรงนี้ เชื่อว่าสื่อเข้าใจตรงนี้ แต่อย่าทำเหตุการณ์บานปลาย เพราะไม่มีผลดีกับใครทั้งสิ้น ประเทศชาติก็หักพังไปเรื่อย แล้วแต่จะคิด

 

เมื่อถามถึงข้อเสนอของ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนให้นายกฯ ฟังเสียงเรียกร้องของผู้ชุมนุมและเยาวชน ว่า ด้วยความเคารพเป็นการส่วนตัว เพราะท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน ที่ผ่านมาตนก็รับฟังมาโดยตลอด ไม่ว่าจะสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะคำพูดของผู้ชุมนุม ตนได้ยินทุกคำพูด ดังนั้นขอให้เข้าใจซึ่งกันและกันด้วย โดยในสภาที่ผ่านมาก็มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักการเมือง จากรัฐสภา ซึ่งหลายท่านก็เอาความคิดเห็นข้อมูลจากภายนอกเข้ามาอยู่แล้ว เรื่องความต้องการ ข้อเรียกร้อง ก็พูดในสภาจบแล้ว ดังนั้นขั้นตอนต่อไป คือการตั้งกรรมการศึกษาว่ามีอะไรที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ โดยจำเป็นต้องยึดหลักการกฎหมาย หลักการรัฐธรรมนูญ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ วันหน้าจะแก้ไขอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง 

ส่วนกรณีของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ให้ทำการปฏิวัติเพื่อเปิดทางมีรัฐบาลแห่งชาตินั้น ต้องไปถามคนพูด ตนไม่เคยคิดในเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง อย่าให้สถานการณ์บานปลายไปเรื่อย ๆ ตนไม่ได้หมายความว่าจะมีหรือไม่มีปฏิวัติ ไม่มีใครอยากทำหรอกครับ ซึ่งเมื่อวาน พล.อ.ประวิตร ก็ได้ตอบไปแล้ว

ทั้งนี้ ท่าทีของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย อาจไม่ร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ เพราะว่าเป็นเพียงการยืดเวลาของรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นี่คือกลไกการแก้ไขปัญหาของรัฐสภา เมื่อเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ต้องเคารพระบบรัฐสภา เคารพคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นต้องไปทบทวนตรงนี้ เห็นมีอยู่ 2 พรรค ที่บอกว่าไม่อยากจะเข้าร่วม แล้วท่านจะเข้าไปประชุมในสภาทำไม ในเมื่อท่านเป็นส.ส.และเป็นพรรคการเมือง เป็นผู้แทนจากประชาชน ที่ต้องรับฟังความเห็นของประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ใช่เอาเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาเสนอ มากดดัน มาเร่งรัด ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง ประชาธิปไตยไทยเป็นอย่างนี้หรือ ตนไม่มีความเห็น พูดได้แค่นี้ ก็ต้องดูเจตนา

related