svasdssvasds

จากใจสาวพม่า ก้าวข้ามคำด่า-ความรังเกียจ ในวิกฤตโควิดระลอกใหม่

สาวพม่าน้ำตาคลอเล่าสถานการณ์ร้อนเย็นที่ต้องผ่าน ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจการค้าขาย ฝ่ามรสุมคำด่าว่าในโลกโซเชียล ปมโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นแล้ว และไม่มีใครอยากให้เกิด

จากสถานการณ์การกลับมาระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่เริ่มจากกรณีพบผู้ป่วยยืนยันเป็นเจ้าของแพกุ้ง จ.สมุทรสาคร หลังจากนั้นมีการตรวจสอบพบผู้ติดเชื้อที่ จ.สมุทรสาคร จำนวนมาก ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว และในโลกโซเชียลก็มีกระแสจากคนบางกลุ่มต่อว่า ด่าทอ แรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

 

น้องมี่ เอ ตาน (MI AYE THAN) สาวพม่า เชื้อสายกะเหรี่ยง รับจ้างขายพวงมาลัยและดอกไม้บริเวณข้างศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งปักหลักทำมาหากินบนแผ่นดินไทยมากว่า 4 ปี เล่าให้ฟังว่า คนเมียนมาในแผ่นดินไทยรู้สึกสะเทือนใจ และเสียใจมากกับการด่าว่าบนโลกโซเชียล บางคนถึงขั้นแสดงความรังเกียจไม่ขายของให้ชาวพม่าก็มี บางครั้งพอมีเวลาว่างจากการทำงาน ตนก็จะเปิดโทรศัพท์เช็คข้อมูลข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 เพื่อป้องกันและอยู่ให้ห่างจากจุดเสี่ยง ซึ่งก็เห็นผ่านโลกโซเชียลว่ามีการตำหนิด่าทอชาวเมียนมาเกี่ยวกับสถานการณ์การกลับมาระบาดอีกครั้งของโควิด-19 สิ่งที่ตนเลือกทำก็คือ จะพยายามปล่อยผ่านไป ไม่เก็บมาบั่นทอน เพราะว่าจากสถานการณ์จริงเวลาที่ตนขายดอกไม้พวงมาลัย ก็มีลูกค้าและคนรู้จักที่เป็นคนไทยคอยให้กำลังใจกันเป็นอย่างดี บางคนเอาหน้ากากอนามัยมาให้ฟรีๆ เป็นปึกๆ พร้อมกับแสดงความห่วงใย บอกให้ตนป้องกันดูแลตัวเอง ซึ่งน้องมี่ เอ ตาน (MI AYE THAN)  ได้กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกประทับใจในน้ำใจจากคนไทยในยามวิกฤตแบบนี้เป็นอย่างมาก และด้วยกำลังใจ ความห่วงใยของคนไทยนี่เอง ที่ทำให้เธอสามารถฝ่ามรสุมคำด่าทอในโลกโซเชียลมาได้

รักประเทศไทยไหม ?

น้องมี่ เอ ตาน (MI AYE THAN) ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ รักประเทศไทยที่สุดในโลก ประเทศนี้มอบโอกาสให้เธอสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ เลี้ยงครอบครับ เลี้ยงลูกได้ ถ้าไม่มีแผ่นดินนี้ ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินที่ไหน เพราะเราก็เป็นชาวเขา มาจากบ้านนอกจริงๆ ได้มาอยู่ที่นี้ก็ช่วยให้สามารถพัฒนาครอบครัวและตัวเองได้ ” 

 

สถานการณ์การค้าขายช่วงนี้เป็นอย่างไร ? 

“ รายได้ลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง ลูกค้าน้อยลงมาก เพราะเขาก็กลัวกัน ขายก็ไม่ค่อยได้เท่าไร บวกกับช่วงนี้อากาศเย็นทำให้ดอกไม้ราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะดอกมะลิ ” น้องมี่ เอ ตาน (MI AYE THAN) ยังบอกอีกว่า สถานการณ์โควิดระลอกใหม่นี้ ส่งผลกระทบต่อการค้าขายของเธอหนักกว่ารอบแรก

 

ลูกค้ากลัวโควิด แล้วเรากลัวไหม ?

“ ทำยังไงได้ เพราะมันมาจากธรรมชาติ ไม่มีใครอยากให้เกิดโรคระบาด ก็พยายามทำความเข้าใจ เพื่อลดความกลัวลง แต่จะป้องกันตัวเองให้มากขึ้น อย่างช่วงนี้ก็จะใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่หน้าร้านระหว่างขายของ แล้วก็หมั่นล้างมือบ่อยๆ อีกอย่างคือช่วงนี้ไม่เดินทางไปมาหาสู่เพื่อนๆ ชาวเมียนมาด้วยกันเอง รวมทั้งคนไทยที่รู้จักด้วยช่วงนี้ก็งดเดินทางพบปะค่ะ ”

ได้เรียนรู้อะไรจากวิกฤติโควิด

“ โควิดทำให้เราเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองให้มากขึ้น มากกว่าที่ผ่านมา ที่สำคัญโควิดยังเป็นแรงผลักดันให้เรารู้จักประหยัด วางแผนการใช้เงิน อย่างเมื่อก่อนเราใช้เงินวันละหนึ่งร้อยบาท พอสถานการณ์เป็นแบบนี้เราก็ต้องใช้ประหยัดขึ้นโดยใช้แค่ห้าสิบบาท ซึ่งเราก็อยู่ได้ คิดว่าหากสถานการณ์โควิดดีขึ้น และเราสามารถใช้เงินประหยัดได้แบบนี้ต่อไป เราก็จะเก็บเงินได้มากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอยากจะสู้ต่อไปค่ะ ”

 

โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นแล้ว และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถึงแม้ผู้ป่วยยืนยันกลุ่มแรกๆ ในการระบาดระลอกใหม่นี้ จะเป็นแรงงานต่างด้าว ที่ในโลกออนไลน์บางส่วนต่อว่าไปยังแรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และหากเป็นจริงเรื่องการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ! นั้นไม่ได้หมายความว่า “ ประเทศไทยหละหลวมเองหรือ ? ”

 

ติดตามรายการอยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้ ทางเนชั่นทีวีช่อง 22 รายการเล็ก ๆ ที่มีเจตนาถามหาแนวทางการแก้ปัญหาของคนไทยทุกคน

 

related