หมิว สิริลภัส ยอมจบ เอาผิดตำรวจคู่กรณีไม่ได้ ลั่นให้สังคมตัดสิน
จบข่าว! "หมิว สิริลภัส" ไม่สามารถเอาผิดทางอาญาตำรวจคู่กรณีได้ หลักฐานไม่เพียงพอ หลังเช็กภาพกล้องวงจรปิดแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ตามประกบตน จากนี้ให้สังคมเป็นคนตัดสิน จะระมัดระวังตัวมากขึ้น
จากกรณีที่นักแสดงสาว "หมิว สิริลภัส" ได้แจ้งความตำรวจคู่กรณี ที่บุกตามเข้ามาในห้องน้ำหญิง จากนั้นได้มีการเผชิญหน้า พูดคุยกัน
ทางคู่กรณียืนยันว่าทำงานหนักจนเบลอ ทำให้ไม่ทันสังเกตป้าย ไม่มีเจตนาที่ไม่ดี พร้อมยกมือขอโทษสาวหมิวต่อหน้าสื่อมวลชน
หมิว สิริลภัส เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโดนตำรวจบุกตามเข้าห้องน้ำหญิง
หมิว สิริลภัส พบหน้าตำรวจคู่กรณี เคลียร์ปมแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง
และเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 ดาราสาวได้เดินทางไปให้การพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนลงบันทึกประจำวันที่สน.พหลโยธิน
จากการตรวจสอบภาพหลักฐานต่างๆ ไม่ติดใจเอาความคู่กรณี เนื่องจากได้พิจารณาตามพยานหลักฐานแล้ว ไม่ปรากฏหลักฐานใดที่เข้าข่ายจะเอาผิดทางอาญาได้
โดยล่าสุดสาว หมิว ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกหลังเช็กกล้องวงจรปิด ได้ข้อสรุปแล้ว คือ อีกฝ่ายไม่ได้ตามประกบตน ไม่สามารถเอาผิดได้ ทั้งนี้คงให้สังคมเป็นคนตัดสิน
"ขอขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้มาติดตามทำข่าวของหมิวตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมานี้นะคะ
วันนี้หมิวเข้าไปดูหลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง ที่จะตอบข้อสงสัยว่าหมิวถูกตามมาจากที่อื่นหรือไม่ วันนี้หมิวได้ข้อสรุปแล้วคือ หมิวไม่ได้ถูกตามมาจากที่อื่นค่ะ
ส่วนเรื่องของการเอาผิดตำรวจท่านนั้นในทางคดีอาญา วันนี้ ทาง สน.พหลโยธิน ได้ทำการอธิบายข้อมูลว่า ตำรวจท่านนั่น "ยังไม่มีพฤติการณ์" ที่จะเป็นเหตุให้ฟ้องคดีในทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอนาจาร หรือเรื่องกระทำให้ตกใจได้
พูดง่ายๆก็คือ ทางคดีอาญา หมิวคงเดินทางถึงทางตันแล้วค่ะ ไม่สามารถดำเนินคดีอะไรต่อไปได้ แต่ทางวินัย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ทางผู้บังคับบัญชาจะมีการลงโทษทางวินัยอะไรกับตำรวจท่านนี้หรือไม่
สิ่งที่หมิวทำได้ ก็คือการให้ข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย แล้วให้สังคมเป็นคนตัดสินเองนะคะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสังคมเลือกที่จะเชื่อแบบไหน ??
ทุกอาชีพ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ถ้าเราปฏิบัติตัวดี คิดดี ทำดี สิ่งเหล่านี้ จะทำให้อาชีพของเราน่ายกย่อง น่านับถือ โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆมาบังคับ
ในขณะเดียวกัน ถึงแม้อาชีพของคุณจะมีเกียรติแค่ไหน จะมีศักดิ์ศรีแค่ไหน แต่ถ้าบุคคลผู้นั้นกระทำการใดซึ่งเป็นการด้อยค่า หรือ ดูถูกอาชีพ ดูถูกเครื่องแบบตนเอง สิ่งที่ฉุดให้เกียรติยศของอาชีพนั้นลดลงมา ก็คือการกระทำจากบุคคลผู้นั้น ไม่ใช่จากปัจจัยอื่นใดทั้งสิ้น
ต่อจากนี้ไป ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของสังคมเป็นคนตัดสินใจเอาเองนะคะ และหมิวเชื่อว่า คนที่รู้ความจริงที่ดีที่สุด ก็คือคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจ....หมิวก็พร้อมที่จะให้อภัยด้วยความบริสุทธิ์ใจ และขอให้ทุกคนให้อภัยตำรวจท่านนี้
แต่ถ้าเค้าตั้งใจ.....หมิวก็ขอให้สิ่งนี้จงเป็นตราบาปติดตัวเขา เป็นมลทินของครอบครัว และเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่เขารักต่อไป และขอให้เขาไม่มีหน้าที่จะออกมาสู้กับสังคม"
