หลุมหลบภัยใกล้ตัวที่ชาวเกาหลีใต้มองข้าม

แม้สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเกาหลีใต้ดูจะยังไม่ค่อยตื่นตัวเท่าไหร่นัก ประชาชนส่วนมากยังไม่ค่อยรู้ว่าหากเกิดการโจมตีจริง พวกเขาจะสามารถเข้าไปหลบที่หลุมหลบภัยใกล้ตัวได้อย่างไรบ้าง

แม้การข่มขู่จากฝั่งรัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ชาวเกาหลีใต้ดูจะยังไม่ค่อยตื่นตัวกับสถานที่หลบภัยจากเหตุระเบิดใกล้ตัวที่จะสามารถปกป้องพวกเขาจากการปะทะด้วยกำลังในคาบสมุทรเกาหลี

เกาหลีใต้มีที่หลบภัยจากแรงระเบิดรวม 19,000 แห่งทั่วประเทศ หากนับเฉพาะในเมืองหลวง ที่ตั้งอยู่ห่างจากเขตชายแดนออกไปเพียง 40 กิโลเมตร กรุงโซลมีที่หลบภัยแบบนี้อยู่ถึง 3,200 แห่ง แต่ชาวเกาหลีใต้ก็ยังไม่ค่อยรู้จักสถานที่ตั้งหรือเงื่อนไขการเข้าใช้งานเท่าไหร่นัก

โดย ปาร์ก ยุน ซุก ชาวเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า "ถ้าพูดถึงที่หลบภัยใต้ดิน ฟังดูเหมือนฉากในภาพยนตร์ แต่มันมีอยู่จริง แต่มีแค่เจ้าหน้าที่ระดับสูงและคนแค่บางกลุ่มเท่านั้นที่จะเข้าไปหลบข้างในนั้นได้ ฟังดูไม่ยุติธรรมสำหรับประชาชนทั่วไปอย่างเรา"

ที่หลบภัยส่วนมากตั้งอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ชั้นใต้ดินของอาคาร ในโรงจอดรถของอพาร์ทเมนท์หรืออาคารพาณิชน์ทั่วไป สถานที่เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งหลุมหลบภัยโดยเฉพาะ และได้รับการยินยอมจากเจ้าของอาคาร

ยัง อุ๊ค นักวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและความมั่นคงของเกาหลี ระบุว่า "เนื่องจากสถานีรถไฟใต้ดินของเกาหลีใต้ มีความลึกและความแข็งแรงที่มากพอ ตราบได้ที่เราไม่ได้อยู่ในจุดที่โดนโจมตีโดยตรง เราก็สามารถรอดได้แม้โดยโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์น่าเสียดายที่ไม่ได้โฆษณาให้สาธารณชนรู้เท่าไหร่นัก รวมทั้งข้างนั้นยังมีอุปกรณ์ฉุกเฉินตุนไว้อยู่น้อย"

ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนือแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร ด้วยการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว และประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปสำเร็จ 2 ครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท้าทายประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ออกมาประกาศกร้าวว่าจะไม่ปล่อยให้เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธจนสามารถโจมตีประเทศได้

ท่ามกลางความไม่แน่นอน ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาเตือนว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ควรจะพยายามสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนมากกว่านี้ เพื่อให้พวกเขาได้เตรียมพร้อมรับมือ หากเกิดการปะทะกันขึ้นจริง

[embed]https://youtu.be/8Aaaf9qMTJE[/embed]