"พระมหาไพรวัลย์" ร่ำไห้ ประกาศเตรียมสึก ทวงความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี

กรณีเกิดเป็นประเด็นร้อนแรงเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.)ที่ผ่านมา หลัง พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ได้มีการออกมาไลฟ์สดผ่านทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยใช้ข้อความระบุว่า "ความในใจจาก พส. พว." ซึ่งในขณะหนึ่งของการไลฟ์สด พระมหาไพรวัลย์ ได้กล่าวถึง พระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง จะไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัด โดยคาดว่าสาเหตุอาจมาจากกระแสต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• พระมหาสมปอง VS  พระมหาไพรวัลย์ กับ "ศึกชิงบัลลังก์ตั่งทอง" สนั่นทั่วโซเชียล

• พระมหาไพรวัลย์ ขึ้นเทรนทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง หลังไลฟ์สดธรมมะโดนใจชาวเน็ต 

• พระมหาไพรวัลย์ เคลียร์ดราม่า! ฟันธงแล้ว การฆ่าในเกมส์ เป็นบาปหรือไม่ ?

โดยไลฟ์สดพระมหาไพรวัลย์ได้ระบุเรื่องการลาสิกขาว่า " อาตมาอยู่วัดสร้อยทองมา 12 ปี ถึงจะไม่ใช่ที่ที่ตนเองจบเปรียญธรรม 9 ประโยค ไม่ได้สอบให้ในนามสำนักเรียน แต่อาตมาผูกพันธ์กับที่นี้ สอนหนังสือมีลูกศิษย์พยายามทำหน้าที่ทุกอย่าง เพื่อรับใช้สำนักเรียนอย่างเต็มความสามารถ เขาให้สอนเวลาเดียวอาตมาสอนสองเวลา โดยไม่ได้คิดเงิน ไม่ได้คิดค่าตัวเพิ่ม บางที4ทุ่ม5ทุ่ม สอนยากนะไม่ใช่สอนง่าย เพราะรักที่นี้ รักวัดสร้อยทองอยู่ที่นี้โตที่นี้ เป็นพระมหาไพวัลย์ที่คนรู้จักได้ก็เพราะที่นี้ เพราะความใจกว้างของสำนักเรียนวัดสร้อยทอง ฉนั้นสิ่งที่อาตมาทำได้และคิดไว้ดีแล้ว ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านเชื่อมั่นว่าอาตมาคิดอย่างถี่ถ้วน คิดอย่างดีแล้วไม่ได้คิดแบบชุ่ย ไม่ได้คิดแบบมักง่าย ไม่ได้คิดแบบใจร้อน อาตมาคิดอย่างดีและมีเหตุผลในทุกขั้นตอนของการคิด ถ้าพระเดชพระคุณท่าเจ้าคุณ  พระราชปัญญาสุธี ครูบาอาจารย์ที่อาตมามองว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีพรหมวิหารธรรม ไม่ได้รั้งตำแหน่งอธิบดีสงฆ์ของวัดสร้อยทอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามซึ่งมันไม่ชอบด้วยพระธรรมวินัย อาตมาจะสละความเป็นพระ เพื่อที่จะเอาผ้าไตรจีวรที่นุ่งห่มมา 10 กว่าปี ถวายบูชาธรรมกับเจ้าคุณอาจารย์ จะเอาความเป็นพระที่มีอยู่สละและถวายคืน ถ้าความเป็นพระมหาไพวัลย์ไม่สามารถช่วยครูบาอาจารย์ซึ่งอาตมาเปรียบเหมือนพ่อคนที่สองได้เลย ช่วยไม่ได้เลย ไม่มีผลอะไรเลย ก็ขอบูชาความผิดหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่นำเภทภัยครั้งนี้มาสู่เจ้าคุณอาจารย์ด้วยผ้าไตรจีวรที่ห่ม"

ซึ่งช่วงหนึ่งขณะไลฟ์อยู่นั้น พระมหาไพรวัลย์ ได้ร่ำไห้ออกมา พร้อมระบุว่า ก่อนจะบวชเณรคืนสุดท้าย อาตมามีโอกาสได้เข้าไปกอดโยมแม่ ซึ่งปกติแม่จะไม่ยอมให้นอนด้วย ครั้งนั้นโยมแม่บอกว่า จะเป็นการกอดครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้ก็จะกอดไม่ได้แล้ว ซึ่งแม่อาจจะพูดผิดที่บอกว่าเป็นการกอดครั้งสุดท้าย เพราะอีกไม่นานจะได้กลับไปกอดแม่อีกครั้ง วันนี้ดีใจที่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดทั้งหมดแล้ว ถ้าสึกแล้วก็จะกลับบ้าน ไม่อยากประกอบอาชีพที่ไหน อาจอยู่บ้านทำการเกษตร หรือหารายได้ผ่านทางออนไลน์แทน ซึ่งอาตมาชัดเจนในตัวเอง ไม่ใช่เด็กแล้ว อยู่ในเถรภูมิแล้ว อนาคตอาจจะไม่ได้เทศน์ในฐานะพระสงฆ์ แต่คงมาแชร์ปรัชญาการใช้ชีวิต นับถือพระที่สอนให้เรากลับมาพึ่งตัวเอง และสอนให้เรายึดธรรมะมากกว่าวัตถุ

นอกจากนี้ทางฝั่งโซเชียลก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าวมากมาย จนทำให้ #พระมหาไพรวัลย์ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งส่วนมากก็วิพากษ์ วิจารณ์ ถึงความไม่เป็นธรรมที่พระมหาไพรวัลย์ต้องสละผ้าไตรจีวรเพื่อลาสิขา เพราะไม่อยากให้ตนเองมีผลกระทบต่อใคร ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้กำลังใจกันอย่างมาก