น้ำปลาร้าแม่ประกาศ จากปลาร้าปี๊บ มาเป็นปลาร้าขวด เจาะตลาดเกาหลี และ ไต้หวัน

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 7 เม.ย.2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงานน้ำปลาร้าแม่ประกาศ ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 41 ม.2 ต.คูคำ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ยังคงมีผู้ที่ชื่นชอบน้ำปลาร้าปรุงสุกและน้ำปลาร้าในรูปแบบต่างๆทยอยกันมาเลือกชมผลิตภัณฑ์และเจรจาการเป็นคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่าโรงงานผลิตน้ำปลาร้าแม่ประกาศแห่งนี้ ครองใจชาวขอนแก่นมานานว่า 50 ปี ตั้งแต่การทำปลาร้าแบบดั้งเดิม ทั้งแบบปลาร้าตัวและน้ำปลาร้าปรุงรส จำหน่ายที่ตลาดสดชื่อดังแทบทุกแห่งของ จ.ขอนแก่น และมาวันนี้ได้มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ปลาร้าและน้ำปลาร้า ให้กลายเป็นน้ำปรุงรสที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบน้ำปลาร้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมาก

นางประกาศ  สีดาน้อย อายุ 68 ปี เจ้าของโรงงานปลาร้าแม่ประกาศ กล่าวว่า ด้วยการที่ครอบครัวนั้นชื่นชอบการทำอาหารและได้ช่วยงานโรงงานปลาร้าของครอบครัวเมื่อย้อนกลับไปประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนั้นมีฐานการผลิตปลาร้าตัวและน้ำปลาร้าปรุงสุกอยู่ในเขต อ.เมืองขอนแก่น โดยได้เรียนรู้สูตรจากครอบครัวที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งปี 2535 จึงได้เปิดร้านจำหน่ายปลาร้า ครั้งแรกที่เป็นของตนเองที่ ตลาด อ.จิระ โดยจำหน่ายปลาร้าตัว ,น้ำปลาร้าปรุงสุกและปลาร้า ในประเภทต่างๆ จนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของผู้ที่นิยมรับประทานน้ำปลาร้าอย่างมาก จำได้ว่า ตอนนั้นราคาน้ำปลาร้าปรุงสุกจำหน่ายกันอยู่ที่ 15 ถุง 10 บาทที่ร้านค้าทั่วไปหรือร้านจำหน่ายส้มตำ ต่างพากันซื้อนำกลับไปประกอบอาหารกันจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นน้ำปลาร้าแม่ประกาศมาตั้งแต่ขณะนั้น ต่อมาในปี 2536 เมื่อความต้องการในการบริโภคปลาร้ามีมากขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มรู้จักน้ำปลาร้าแม่ประกาศ ครอบครัวจึงตัดสินใจกลับมาตั้งฐานการผลิตที่บ้านเกิดคือที่ อ.ซำสูง แห่งนี้ ทำการผลิตปลาร้า ทั้งระบบ ส่งจำหน่ายทั้งในเขต จ.ขอนแก่น และ จังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงพื้นที่ต่างๆที่ติดต่อเข้ามาขอซื้อปลาร้าของโรงงาน ที่ถือเป็นสูตรเด็ดเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร 

“จึงมีแนวคิดในการทำปลาร้าบรรจุขวด จึงได้ไปศึกษาดูงานที่ จ.ระยอง ซึ่งก็พบว่าปลาทะเล โดยเฉพาะปลากะตักที่เป็นกลุ่มปลาไส้ตันและปลาไม่มีไส้ที่ส่วนใหญ่นำมาทำน้ำปลา สามารถนำมาทำเป็นปลาร้าได้ จึงเริ่มนำปลากะตัก มาทำเป็นน้ำปลาร้าปรุงสุก ตามสูตรและกรรมวิธีที่กำหนด ซึ่งก็ได้ผลตอบรับดี จากนั้นรุ่นลูกก็เข้ามาสานต่องานของครอบครัว ด้วยการจัดระบบน้ำปลาร้า ให้เข้าอยู่ในกลุ่มสินค้าโอทอป มีการขอ อย. และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหาร มีการส่งเข้าประกวดเวทีต่างๆ จนได้รับรางวัลโอทอป 5 ดาว ของกระทรวงมหาดไทย และก้าวสู่อุตสาหกรรมปลาร้าแบบตัวและแบบน้ำปลาร้าปรุงสุกได้อย่างเต็มรูปแบบ จึงทำการจดทะเบียนบริษัทฯมีการปรับเปลี่ยนแพคเกจ คิดค้นสูตรใหม่ตามความต้องการของตลาดและก้าวสู่มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมด้านปลาร้าและน้ำปลาร้าแห่งแรกของ จ.ขอนแก่น ที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนขอนแก่นและคนในชุมชนได้อย่างภาคภูมิใจ”

ขณะที่ นายสิทธิชัย  สีดาน้อย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงงานปลาร้าแม่ประกาศ จำกัด  กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงาน ใช้ปลากะตัก จากท่าเรือที่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหาร เฉลี่ยสัปดาห์ละ 8 ตัน ซึ่งเมื่อท่าเรือส่งปลาให้กับทางโรงงานฯ คณะทำงานฝ่ายต่างๆก็จะดำเนินการทันที โดยเริ่มจากการล้างทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นก็จะเคล้าเกลือตามสัดส่วนของสูตรที่กำหนด และเข้าสู่กระบวนการหมัก ซึ่งในการหมักนั้นต้องหมักในโอ่งมังกรจาก จ.ราชบุรี เท่านั้น เพราะด้วยดินของโอ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ จ.ราชบุรี มาผสมผสานกับกระบวนการหมักและสูตรในการหมักของ จ.ขอนแก่น ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานฮาลาล และมาตรฐานอุตสาหกรมอาหารและมาตรการของกรมประมง จึงทำให้ปลาร้าปลากะตัก ที่ทำการหมักนั้นจะหอม อร่อย และมีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในการหมักนั้นจะใช้เวลาขั้นต่ำประมาณ 15 วัน ในหน้าร้อน หรือประมาณ 1 เดือนในหน้าหนาว ก็จะได้น้ำปลาร้าที่พร้อมนำไปปรุงรสและใช้ในการรับประทานได้แล้ว

“ปลาร้านั้นยิ่งเก็บไว้นาน ยิ่งหมักนานก็จะยิ่งนัว หรือยิ่งเข้มข้น ซึ่งเมื่อการหมักปลาในโอ่งมังกรตามระยะเวลาที่กำหนดเข้าสู่กระบวนการต้ม-เคี่ยว และปรุงรส ตามสูตรเด็ดของทางโรงงานที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ก่อนที่จะเข้ากระบวนการบรรจุขวดที่โรงงานมีเครื่องจักรถึง 3 ชุด มีแรงงานที่เป็นคนในชุมชนกว่า 20 คน ทุกคนผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองและคุมเข้มตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้มีรสดั้งเดิม ที่ครองใจคนขอนแก่นและลูกค้าจากทั่วทั้งประเทศมากว่า 50 ปี เป็นสินค้าหลักที่ลูกค้าสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่อง,รองลงมาคือน้ำปลาร้าปรุงรสรสย่อมเยาว์ถูกใจวัยรุ่น ซึ่งได้ร่วมทุนกับนุ๊ก-ปาย ศิลปินชื่อดังที่วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งน้ำปลาร้าปรุงสุกของโรงงาน ที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำปรุงรสนั้นจะไม่มีกลิ่นคาว หรือกลิ่นปลาร้า เพราะผ่านกระบวนการพาสเจอไรท์ตามหลักวิชาการที่ถูกต้องจึงทำให้น้ำปลาร้าปรุงรสของเรานั้นสามารถพกติดตัวไปที่ใดก็ได้ ใส่กับอะไรก็อร่อยได้ทุกเมนู นอกจากนี้ยังคงมีปลาร้าแบบเป็นตัว ทั้งปลาสร้อย และปลากระดี่ ที่ลูกค้ามาสั่งซื้อและยังคงต้องการให้ผลิตแบบอีสานดั้งเดิมและใส่บรรจุในปี๊บจำหน่ายในตลาดและชุมชน ซึ่งก็มีลูกค้าสั่งผลิตเพื่อนำไปจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทุกวันเช่นกัน”

นายสิทธิชัย กล่าวต่ออีกว่า มาวันนี้ โรงงานปลาร้าแม่ประกาศ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือน้ำปลาร้ากัญชา ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ให้เป็นโรงงานน้ำปลาร้าแห่งแรกของขอนแก่น ที่ได้รับ อย.และได้รับการการันตีมาตรฐานอาหารเพื่อสุขภาพ ผ่านการตรวจประเมินทั้งจากการเป็นสินค้าฮาลาล การเป็นสินค้าส่งออกตามาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารไทยและกรมประมง ที่ส่งจำหน่ายไปแล้วในหลายประเทศ โดยเฉพาะที่เกาหลีใต้และไต้หวัน อีกทั้งโรงงานยังคงได้รับมาตรฐาน ISO22000 GMP  HACCP จนทำให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศที่นอกจากการสนใจสั่งซื้อน้ำปลาร้าปรุงสุกรสชาติดั้งเดิมของแม่ประกาศไปรับประทานและวางจำหน่ายแล้ว ยังคงมีการติดต่อมาเพื่อ ซึ่งมีทำเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีหลายบริษัทฯ ทยอยติดต่อสอบถามและเข้ามาตรวจสอบโรงงานหรือตรวจสอบขั้นตอนการผลิตเพื่อความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร 

ทั้งยังคงนำน้ำปลาร้าปรุงสุกมาประกอบอาหารให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมได้รับประทาน ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำปลาร้า,หมูทอดหมักน้ำปลาร้า,ไข่เจียวน้ำปลาร้ากัญชาที่เราใช้ชื่อว่า แซบกัน  (SABB KAN) และที่ขาดไม่ได้คือส้มตำน้ำปลาร้า ที่ใช้เพียงขวดเดียวเอาอยู่ได้ทุกเมนูเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามสำหรับราคาจำหน่ายก็ไม่แพง แบบรสชาติดั้งเดิมแบบขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาส่งลังละ 180 บาท ขณะที่น้ำปลาร้ากัญชา ขนาดขวดละ 350 มิลลิลิตร ราคาส่งลังละ 500 บาท ซึ่ง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือลองชิมน้ำปลาร้าปรุงสุกสูตรเด็ดของคนขอนแก่น  ได้ที่หมายเลข 095-8914265 การันตีความอร่อยครองใจคนขอนแก่นมานานกว่า 50 ปีเลยทีเดียว