โครงการเพาะรัก ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง “เด็กบนดอยสูง”

เพราะเด็กทุกคนมีความพิเศษเฉพาะตนเอง ไม่ว่าจะเกิดหรือเติบโตที่ใด ควรได้รับการบ่มเพาะให้เติบใหญ่และสวยงามในแบบฉบับของตนเอง แต่ด้วยปัญหาหลักด้านเศรษฐกิจ วิถีสังคม ส่งผลให้ “ครอบครัว” ไม่สามารถโอบอุ้มและผลักดันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้เรียนหนังสือ ได้มีอาหารยังชีพครบหมู่โภชนาการ ตลอดจนมีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยได้ การศึกษาจึงเปรียบดั่ง กุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดประตูให้ เด็ก ได้รับโอกาสเติบโตเป็น ผู้ใหญ่ ที่มีคุณภาพได้ดูแลตนเอง ครอบครัว อย่างยั่งยืน 

ปลูกต้นกล้าด้วยหัวใจ เริ่มต้น “ให้” เพื่อเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส การเกิดขึ้นของ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เพื่อเด็กและเยาวชนฯ องค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก จึงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายและจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือพัฒนาเด็กด้อยโอกาสและครอบครัวในชุมชนมากกว่า 42,000 คน ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศไทยให้เติบโตในเส้นทางความฝันของพวกเขา 
    
เพราะในพื้นที่ห่างไกลยังมีเด็กอีกมากมายที่ถูกปิดกั้นอนาคตของพวกเขา เพียงเพราะขาดโอกาส “มณีนุช” เป็นตัวอย่างหนึ่งของการที่ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้การช่วยเหลือพลิกฟื้นคุณภาพชีวิต

เด็กสาวอ่าข่าเล่าว่า ฐานะทางบ้านของเธอถือว่ายากจนมาก และเธอก็ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ ซึ่งเข้ามาช่วยพลิกชีวิตของเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล
   
“ตอนนั้นบ้านหนูยังเป็นหญ้าคาอยู่เลยค่ะ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำไป ถามว่าลำบากไหมก็ลำบากนะคะ เพราะการศึกษาทุกอย่างต้องมีทุน แล้วถ้าหนูไม่มีทุนก็ไปต่อไม่ได้ ที่สำคัญที่ลำบากมากๆ ก็คือบัตรประชาชน แต่พอหนูเข้ามาอยู่ในโครงการ เขาก็ให้ทุนการศึกษา สนับสนุนเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน สนับสนุนทุกด้านเลย ทำให้หนูได้เรียนต่อ ถ้าหนูไม่ได้เรียนต่อก็อาจจะไม่ได้บัตรประชาชนก็ได้ ตอนนั้นหนูอยู่ ปวส. คือถ้าไม่มี ซี.ซี.เอฟ หนูคงไม่ได้เรียนต่อ พ่อแม่ก็ส่งไม่ไหว”

สำหรับเธอ ทุนการศึกษาไม่ใช่แค่การช่วยเหลือค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้ตั้งใจเรียนและประพฤติตัวดี สมกับที่ได้ชื่อว่า “เด็กทุน ซี.ซี.เอฟ.ฯ ด้วย”

จิตอาสาด้วยหัวใจ หวังให้ลูกหลานได้ก้าวหน้า
ด้วยความที่ในวัยเด็กของเขาไม่มีใครหยิบยื่นโอกาสทางการศึกษามาให้ ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองตามลำพัง พี่ยาแง้ จึงไม่ลังเลที่จะอุทิศตัวทำงานจิตอาสาร่วมกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ หวังให้ลูกๆ หลานๆ ในหมู่บ้านได้เรียนหนังสือ ชาวบ้านในชุมชนได้มีอาชีพ ได้มีแหล่งอาหารปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว 

“เงินความช่วยเหลือที่เด็กได้รับ ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือเด็กคนนั้นๆ แต่เป็นการอุ้มชูและแบ่งเบาภาระประจำวันของครอบครัว จากอดกลายเป็นอิ่ม แม้ไม่ถึงกับเหลือแต่ก็เติมท้องไม่ให้หิวโหย เด็กได้มีชุดนักเรียนสะอาด รองเท้าใหม่ อยากใส่ไปโรงเรียน ยืนเรียงแถวเดียวกับเพื่อนๆ อย่างเท่าเทียม เท่านี้ก็มีผลกับหัวใจเด็กตัวเล็ก ๆ คนนึงให้มีกำลังใจจะเรียนหนังสือ”

ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการสื่อสาระหว่างภาษาของชนเผ่าอาข่าและภาษาไทย เชื่อมต่อระหว่างชุมชนกับมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เป็นอีกความภาคภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือให้เด็กๆ หลายคนเข้าถึงทุนการศึกษาที่มูลนิธิฯ มอบให้ และด้วยทุนนี้ทำให้เด็กไม่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เหตุเพราะต้องทำงานหาเงินส่งน้องๆ เรียน เด็กในหมู่บ้านสามารถสื่อสารและมีโอกาสทางสังคมเพิ่มมากขึ้น

ห้องเรียนทักษะสร้างชีวิตต่อยอดอาชีพให้อนาคต

อีกหนึ่งแกนนำชุมชนที่พ่วงตำแหน่งคุณครูนักพัฒนาที่ห่วงใยความเป็นอยู่ของเด็กบนดอยเสมอมา “ศุภรดา ล้านกันหา” หรือ ครูเก๋

ครูเก๋เล่าว่า หลังจากที่โรงเรียนผาขวางวิทยา จ.เชียงราย ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านอาชีพ โดยมุ่งหวังเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และมีทักษะชีพติดตัวไปหลังจากเรียนจบแล้ว วันนี้ ในระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนสามารถสร้างกลุ่มอาชีพได้ถึง 12 อาชีพ ให้เด็กนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ส่งเงินกลับมาช่วยครอบครัว สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล 
ทุนการศึกษาจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ตั้งต้นชีวิตใหม่ให้แก่เด็กคนหนึ่งที่ครูเก๋อุปการะอยู่ ด้วยความช่วยเหลือด้านการส่งเสริมพัฒนาการและรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กที่มีพัฒนาการช้า จนมีร่างกายและจิตใจพร้อมกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้อีกครั้ง 

หนึ่งเสียงจากอาสา เล่าเรื่องอาหารเช้าของน้อง
อามี่ แซ่จ๋าว ผู้ที่เป็นทั้งผู้ให้และรับ หนึ่งในกรรมการจิตอาสาและผู้ปกครองเด็กในความดูแลของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ พูดถึงโครงการแหล่งอาหารด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะนอกจากจะทำให้ลูกของเธอ มีมื้อเช้าที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนากินก่อนไปโรงเรียนแล้ว เด็ก ๆ อีกหลายครอบครัวก็ได้รับแบ่งปันผักชนิดต่างๆ และโปรตีนจากไข่ ที่จำเป็นต่อพัฒนาร่างกายและสมองของเด็กวัยกำลังเติบโต 

“พ่อแม่ ทุกคนจะยิ้มดีใจที่ได้เมื่อเห็นลูกๆ มีความสุขอยากออกไปเรียนหนังสือ และเด็กๆ อีกหลายครอบครัวได้กินอิ่ม นอนหลับ” พี่อามี่ ยังเล่าอีกว่า มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ไม่เพียงมอบมื้ออาหาร แต่ยังมอบองค์ความรู้ที่นำไปใช้ในการปลูกและเพาะเลี้ยง สำหรับสร้างแหล่งวัตถุดิบที่บ้านไว้เลี้ยงดูคนในครอบครัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นรายได้เสริมได้อีกทางด้วย

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ จับมือเครือข่ายชุมชน สานต่อความฝันสร้างอนาคตที่อาจต้องหยุดลงอย่างน่าเสียดาย และเพราะความห่างไกลไม่ใช่อุปสรรคที่จะเติมกำลังใจและส่งความรักให้กับเด็กๆ ร่วมปลูกคน ปลูกอนาคต มอบโอกาสตั้งต้นให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสวันนี้ ผ่าน มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ฯ โทร 02 747 2600 หรือที่  https://bit.ly/3lA8RIY หรือ สแกน QR Code