ชรินทร์ นันทนาคร กับรักอมตะ ผ่านบทเพลง “หยาดเพชร”

หากพูดถึงผลงานเพลง ของ “ชรินทร์ นันทนาคร” 1 เพลงที่หลายคนนึกถึง คงไม่พ้น เพลง "หยาดเพชร" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง เงิน เงิน เงิน  เมื่อปี 2508 เพลงที่มีที่มาถึงรักอมตะ ของนักร้องดัง “ชรินทร์ นันทนาคร” และ นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง “เพชรา เชาวราษฎร์” ซึ่งบทเพลงนี้ ครูชาลี อินทรวิจิตร ได้แต่งเนื้อร้อง และครูสมาน กาญจะผลิน แต่งทำนอง โดยหลังจากที่ ชรินทร์ ได้เลิกกับภรรยาคนแรกอย่าง ‘สปัน เธียรประสิทธิ์’  ได้เริ่มต้นรักครั้งใหม่ กับ นางเอกสาว “เพชรา เชาวราษฎร์”  ทั้งคู่ร่วมงานครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง "แพนน้อย" โดยมีโอกาสพบกันที่บ้านดอกดิน กัญญามาลย์ บ่อยครั้ง

เส้นทางความรักของทั้งคู่นั้น ไม่ง่ายเลย เพราะในอดีตคนในวงการบันเทิงหากจะมีความรัก ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ โดย "ชรินทร์ นันทนาคร" ได้พยายามแสดงความรักที่มีต่อ "เพชรา" นานหลายปี ด้วยการดูแลแวะไปเยี่ยมเยียนที่กองถ่าย คอยรับส่ง จนวันหนึ่งเขาได้ให้ "ครูชาลี อินทรวิจิตร" แต่งเพลงจีบ "เพชรา" ให้ นั่นก็คือ เพลงหยาดเพชร โดยครูชาลี ได้บอกกับ ชรินทร์ ว่า “ผมบอกเขาว่า ร้องให้ดีนะ ร้องแล้วคงรู้ว่าผมหมายถึงใคร..."  ซึ่งท่อนแรกของเพลง บ่งบอกความหมายถึง นางเอกสาวเป็นอย่างดี

“เปรียบเธอเพชรงามน้ำหนึ่ง หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า ร่วงลงมาจากฟ้าหรือไร”

ก่อนที่ความรักทั้งคู่จะสมหวัง และได้แต่งงานกันในปี พ.ศ.2518 ท่ามกลางอุปสรรคที่ทั้งคู่ต้องฝ่าฟัน แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง เมื่อ เพชรา ต้องประสบปัญหาตาบอดตลอดชีวิต เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ในอดีตต้องใช้แสงไฟสว่าง จนมีปัญหาต่อสายตา "ชรินทร์ " ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ในอดีตครั้งนั้น วันที่ทราบข่าว ในงานเลี้ยงฉลอง ร่วมแสดงความยินดี เพชรา เชาวราษฎร์ ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติว่า

“เหตุการณ์ในวันนั้น เพชรา ได้เดินเขามากอดผม และร้องไห้ พร้อมบอกว่า ฉันมองไม่เห็นแล้ว ผมบอกกับเธอว่า จำไว้อย่างหนึ่ง ฉันจะไม่ทิ้งเธอ”

แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักของ ชรินทร์ และ เพชรา ยังเป็นรักที่อมตะ และซาบซึ้งกับแฟนๆเสมอ ซึ่งในคอนเสิร์ต ชรินทร์ อิน คอนเสิร์ต เมื่อปี 2541 ชรินทร์ นันทนาคร ได้กล่าวถึงบทเพลงนี้ บนเวทีว่า

“ผมร้องเพลงๆ นี้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ตั่งแต่วันที่เธอได้รับฉายาว่า ผู้หญิงนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง จนวันนี้ ไม่มีแสงสว่างในดวงตาของเธออีกต่อไปแล้ว ผมก็ยังร้องเพลงๆ ให้กับผู้หญิงคนนี้ฟัง”