เปิดไทมไลน์ แก๊งจีนโหด อุ้มเรียกค่าไถ่สังหาร นศ.สาวจีน ล่าสุดถูกจับแล้ว

4 เมษายน 2566 จากกรณีพบศพหญิงสาว ถูกฆาตกรรม ยัดใส่ถุงพลาสติกสายรุ้ง ทิ้งร่องน้ำในสวนบัว ริมถนนวัดต้นเชือกศาลายา จ.นนทบุรี พบร่องรอยถูกทรมานก่อนเสียชีวิต ก่อนพบว่าเป็น น.ส.จิน ซ่าน อายุ 23 ปี นักศึกษาสาวชาวจีน ที่ถูกลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ ก่อนฆาตกรรมยัดถุงพลาสติกอำพรางคดี 

สำหรับไทม์ไลน์ของ น.ส.จิน ก่อนหายตัว 

• ช่วงค่ำของคืนวันที่ 28 มี.ค.66 ที่ผ่านมา พบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลา 19.16 น. พบภาพของ น.ส.จิน เดินเข้ามาภายในร้านอาหาร ในพื้นที่กรุงเทพฯ ลักษณะเหมือนมีการสั่งของเอาไว้ โดยขณะเดินเข้ามาภายในร้าน ภาพวงจรปิด สามารถจับภาพหญิงสาวและชายหนุ่ม ซึ่งกำลังนั่งอยู่ภายในร้าน และเมื่อเหยื่อเดินเข้ามา ชายหนุ่มก็มีลักษณะมอง น.ส.จิน อยู่ตลอดเวลา
• เวลา 20.53 น.ส.จิน ออกจากร้าน ออกเดินทางต่อไปเซ็นทรัลเวสเกต  จ.นนทบุรี ด้วยรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน กทม. ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกติดตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนกระทั่งพบรถและคนขับ ซึ่งคนขับแท๊กซี่ ระบุว่า ได้ขับรถมาส่ง น.ส.จิน บริเวณฝั่งตรงข้ามของห้างฯ ในช่วงเวลา 21.13 น. 

• กระทั่งเวลา 21.58 น.- 23.53 น. ชุดสืบสวนยังพบเบาะแสว่า น.ส.จิน ได้เดินทางไปที่บริเวณ ถนนพฤกษา37 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดสุดท้ายที่พบการเคลื่อนไหว ก่อนที่เหยื่อจะถูกแก๊งชาวจีน ทำการจับตัว และมัดมือมัดเท้า เพื่อทำการเรียกค่าไถ  
• ต่อมาช่วงเวลา 01.06 น. ของวันที่ 29 มี.ค. พบคลิปรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า มีลักษณะขับวนเวียน อยู่ในบริเวณจุดที่พบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทำการตรวจสอบในเชิงลึก พบว่า บุคคลที่มากับรถต้องสงสัยคันนี้ เป็นชาย 3 คน และ ทั้งหมดเป็นชาวจีน โดยในคืนวันเกิดเหตุ ทั้ง 3 คน ได้มาซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อหลายครั้ง 
• หลังจากนั้น ตำรวจชุดแกะรอย จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ กระทั่งพบว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว มีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในละแวกใกล้เคียง โดยเช่าบ้านจากเจ้าของบ้านที่เป็นชาวไทย  และเมื่อติดต่อไปยัง เจ้าของบ้านชาวไทยรายนี้ จึงพบว่า บุคคลทั้ง 3 ที่เป็นชาวจีนได้มาเช่าบ้านอยู่จริง และได้ย้ายออกไป เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา
   

อย่างไรก็ตามคาดว่า เหยื่อนักศึกษาสาวชาวจีนรายนี้ ได้ถูกลักพาตัวไปในช่วงค่ำของคืนวันที่ 28 มี.ค. กระทั่งในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 29 มี.ค. จึงถูกแก๊งชาวจีนอุ้มเรียกค่าไถ ลงมือทำร้ายอย่างทารุณ ก่อนที่จะลงมือฆ่ารัดคอเหยื่อ จนกระทั่งเสียชีวิต พร้อมกับนำศพยัดใส่ถุง และนำมาทิ้งเอาไว้ในบริเวณป่ากล้วย ย่าน อ.บางใหญ่ 

ส่วนรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า สีแดง จากการแกะรอย ยังพบด้วยว่า ได้เช่ามาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยถูกนำมาส่งคืนให้กับเจ้าของเต้นท์รถ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังนั้นผู้ก่อเหตุ ทั้ง 3 ราย ได้เดินทางออกนอกประเทศไปที่ เมืองเฉิงตู ประชาชนจีน

ล่าสุด  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันว่าทางการจีนสามารถจับกุม นายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี, นายเฉิน ไซกัง อายุ 23ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี ชาวเมืองเหอเป่ย ประเทศจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี ได้แล้วหลังหลบหนีไปที่ประเทศจีน

โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ส่งพนักงานสอบสวนไปถึงยังเมืองปักกิ่งแล้ว อยู่ระหว่างเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับทางการจีนถึงสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ ซึ่งการสอบสวนจะร่วมกันทั้งสองประเทศเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตเป็นคนจีนที่ก่อเหตุนอกประเทศจีนและทางการจีนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในประเทศจีน ทางการจีนสามารถดำเนินคดีได้ที่ประเทศจีน โดยไม่ต้องส่งตัวผู้ต้องหากลับมาประเทศไทย เพราะกฎหมายของประเทศจีน มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ซึ่งตามขั้นตอนตำรวจไทยจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งการแจ้งความที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคดี ส่งไปให้ทางการจีนเพื่อพิจารณาคดีในชั้นศาล 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในทางกลับกันหากเป็นคนไทยที่ก่อเหตุฆาตกรรมกันเองหนีไปต่างประเทศ แล้วทางการจีนจับผู้ต้องหาได้ประเทศไทยก็สามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการสอบปากคำหญิงไทย ที่เป็นสาวคาราโอเกะวัย 19 ปี ย่านอินทามระ ที่เป็นนกต่อ ถือว่าให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ในรายละะเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล 

มีรายงานว่าหญิงไทยคนดังกล่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลืออำนวยความสะดวกและรู้เห็นการก่อเหตุทั้งหมดและเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนจะมีบุคคลอื่นส่วนเกี่ยวข้อถึงขั้นร่วมลงมือก่อเหตุด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ต้องรอการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่