แม่ชาวกำแพงเพชร เชื่อลูกสาวเป็นเหยื่อ ไซยาไนด์ ตายหลังเจอแอมได้วันเดียว

วันที่ 26 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางลัดดา ขาวอินทร์  อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 1 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ ทราย อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม 2558 ที่กรุงเทพมหานคร โดยระบุสาเหตุการเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เฉียบพลัน โดยได้บำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพที่กรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ยังคาใจในสาเหตุการตาย โดยผู้เสียชีวิตนั้นมีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิทกับแอม ผู้ต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่มีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตกับผู้ที่ใกล้ชิดอีกกว่า 10 ราย

โดยนางลัดดา ได้เปิดเผยว่า ลูกสาวของตนไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีความสนิทสนมกับแอม ถือเป็นเพื่อนสนิทกัน ชอบทำบุญซึ่งก็จะมีแอมไปด้วย โดยตลอดระยะเวลาที่คบหาเป็นเพื่อนกัน ลูกสาวตนคอยช่วยเหลือแอมในทุกๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเงิน หากแอมเดือดร้อนก็จะยื่นมือเข้าไปช่วย ซึ่งแอมเองก็มักจะยืมเงินลูกสาวตนตลอดเวลา ครั้งละประมาณ 50,000ขึ้นไป แต่ก็ไม่เคยที่จะใช้คืนแม้แต่ครั้งเดียว ลูกสาวตนก็ไม่เคยบ่นหรือทวงคืนแต่อย่างใด มีแต่ให้ตลอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• แพทย์ชี้สารไซยาไนด์ เข้าสู่ร่างกายแค่ 0.3 มิลลิกรัมถึงเสียชีวิต

• สรุปให้ "นางสาวแอม" วางยาเท้าแชร์ดับ พบขวดไซยาไนด์ และสารในตัว เหยื่อ

ล่าสุดก่อนเสียชีวิตลูกสาวไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศประมาณ 3 ปี และจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย แอมก็ได้อาสาไปรับกลับมาจากสนามบินและมาส่งบ้านในช่วงเช้ามืด จากนั้นเวลาไม่นานก็มาทรายข่าวว่าลูกสาวตนเสียชีวิต ตนจึงไปจัดการศพ 

ซึ่งตั้งแต่ลูกสาวตนเสียชีวิตจนกระทั่งฌาปนกิจแอมไม่เคยมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลหรือเข้ามาแสดงความเสียใจเลย หลังจากฌาปนกิจศพแล้วตนเคยโทรไปหาแอม แต่แอมพูดจาไม่ดีใส่ตนและตัดสายทิ้ง โดยตนเคยถามเรื่องทรัพย์สินของแอม แต่แอมอ้างว่าสามีของลูกสาวตนให้ตนนำไปประมูลขาย แล้วตัดสายทิ้งไป

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ตนยังคงค้างคาใจต่อสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวตนเองมาตลอดระยะเวลา 7 ปี จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าแอมถูกดำเนินคดี และมีสาเหตุการเสียชีวิตในแต่ละรายคล้ายกับลูกสาวตน และมีความใกล้ชิดเหมือนกัน แต่ต้องมาจบชีวิตทุกราย ตนรู้สึกโล่งใจ และเสียใจว่าทำไมต้องมาทำกันขนาดนี้
หากแอมมาอยู่ตรงหน้าตนมายกมือไหว้ขอโทษหรือขออโหสิกรรมกับตน จะไม่ยกโทษให้ และขอให้ได้รับโทษตามที่กระทำให้ถึงที่สุด