svasdssvasds

เอกชนอ้อน “เศรษฐา ทวีสิน” ปลุกเศรษฐกิจโค้งท้าย คืนชีพ ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่ง

เอกชนอ้อน “เศรษฐา ทวีสิน” ปลุกเศรษฐกิจโค้งท้าย คืนชีพ ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่ง

เศรษฐกิจไทยยังต้องได้รับการกระตุ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเอกชนกระทุ้งรัฐบาลให้เร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งท้ายปี 66 ภาคค้าปลีกแนะคืนชีพ “ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่ง” กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ

หลังจากรัฐบาลใหม่เริ่มเดินหน้าทำงานแล้ว ก็มีนโยบายหลากหลายออกมากระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่ในช่วงนี้ยังไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ โดยประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่นัดแรกที่ผ่านมา มีมติมาตรการในหลายเรื่องที่ให้ทำทันที โดยที่จะมีผลต่อการลดรายจ่าย เพิ่มเงินในกระเป๋า และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนที่จะมีผลต่อการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี2566

โดยนโยบายที่สำคัญๆ ได้แก่ การลดค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เป็นต้น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ร่วมหารือเพื่อขอความร่วมมือในการลดราคาสินค้าทั่วประเทศปลายปีนี้ แต่มาตรการต่าง ๆ ข้างต้นภาคเอกชนมองว่ายังไม่เพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีข้อเสนอภาครัฐรับไปพิจารณาดำเนินการ

ส่วนโครงการอื่นๆ ที่เอกชนต้องการให้รัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายมีหลากหลาย เช่น นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลนำ 2 มาตรการ โครงการช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง กลับมาใช้อีกครั้ง เพราะจะเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มเม็ดเงินและสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ

ทั้งนี้เนื่องจาก 2 โครงการมีความต่างกันในกลุ่มลูกค้า โครงการช้อปดีมีคืน เหมาะกับคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ และต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล คือเป็นกลุ่มที่มีรายได้เกิน 310,000 บาทต่อปี และต้องการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และสินค้าและบริการจากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

ส่วนโครงการคนละครึ่งจะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ เป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ

โดยรัฐบาลจ่ายค่าซื้อสินค้าให้ 50% ไม่เกินวันละ 150 บาทต่อคน ตลอดทั้งโครงการให้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท เหมาะกับคนที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็ก , ตลาด, ร้านโชห่วย, หาบเร่ ฯลฯ เป็นประจำ ซึ่งทั้ง 2 มาตรการจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related