svasdssvasds

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัว “ซีพี” หนุนรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัล เชื่อรัฐบาลเศรษฐาเข้ามาถูกเวลาช่วยแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย ถ่ายทอดมุมมองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการปาฐกพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 90 ปีหอการค้าไทย ในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศประจำปี 2566 ไว้อย่างน่าสนใจทั้งการคิดใช้คนรุ่นใหม่และเทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศ การเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รวมถึงการลดเวลาทำงานลง

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายธนินท์ พูดถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า เห็นด้วยและสนับสนุนที่นายกฯ เศรษฐา กำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท มองว่า โครงการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ไปช่วยคนยากจน

ขณะเดียวกันมองว่า เมื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ควรต้องมีแผนที่สอง ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว นายธนินท์ เชื่อมั่นว่า รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาในเวลาที่ถูกต้องที่จะมาแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนายกฯ เศรษฐา ที่เคยประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ เป็นนักบริหารการเงินอย่างยอดเยี่ยม

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ผมมีความมั่นใจครับ ที่ออกมาตรการมา ผมคิดว่าทุกอย่างถูกต้องครับ วันนี้เศรษฐกิจไม่ปกติ ผมคิดว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่ใช้วิธีปกติมากระตุ้น วันนี้เป็นวิกฤตเศรษฐกิจของโลก”

นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับนโยบายพักหนี้เกษตรกร เพราะสินค้าเกษตรเปรียบเป็นน้ำมันบนดินของประเทศไทย และ ไม่มีวันหมด เพาะปลูกแล้วเก็บเกี่ยวก็ปลูกใหม่ได้ สินค้าเกษตรเกือบจะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ งอกจากแผ่นดินไทย ถ้าหากสินค้าเกษตร ต่อยอดให้เพิ่มมูลค่าเป็น 2-3 เท่า รายได้ของประเทศไทยที่แท้จริงก็จะสูงขึ้น เงินเข้าประเทศก็จะมากขึ้น

แนะอย่ากดราคาสินค้าเกษตร

ขณะเดียวกัน ก็หวังว่ารัฐบาลจะไม่จำกัดราคาสินค้าเกษตร โดยที่ไม่เข้าใจว่าทำไมสินค้าเกษตรแพง เพราะบางครั้งอาจจะเกิดจากน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือโรคแมลง เมื่อจำกัดราคาสินค้าก็ทำให้เกษตรกรยากจน ดังนั้นต้องจัดการให้เป็นระยะยาว เพิ่มรายได้เกษตรกรในระยะยาว

”วันนี้คนยากจนส่วนใหญ่มาจากเกษตรกร ทำให้หนี้นอกระบบเกิดขึ้น อยากฝากนักธุรกิจสมาชิกหอการค้าไทยช่วยกัน วันนี้ถึงเวลาที่ทุกพรรคการเมือง นักธุรกิจราชการต้องมองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ตามด้วยประชาชน แล้วค่อยมานึกถึงตัวเอง ถ้าประเทศอยู่ไม่ได้ประชาชนไม่มีกำลังซื้อแล้วพวกเรามีสินค้าจะขายให้ใคร“

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

ห่วงเงินฝืดมากกว่าเงินเฟ้อ

เจ้าสัวธนินท์ ยังให้มุมมองว่า เศรษฐกิจของโลกก็วิกฤตเหมือนกัน สหรัฐเงินเฟ้อ 4% แต่จีดีพี 10 % กว่า จึงมองว่า อย่าไปกลัวเงินเฟ้อต้องมีบ้างเหมือนความดันสูงยังมียาควบคุมได้ง่ายกว่าความดันต่ำ แต่เงินฝืดน่ากลัวกว่า เพราะทำให้เศรษฐกิจวิกฤต

“วันนี้ผมห่วงที่สุด คือ เงินฝืด วันนี้วินัยการเงินเราเยี่ยมมากแล้วล่ะ มากระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะธุรกิจในยุคต่อไป ผมมีข้อเสนอแนะว่า อาเซียน 10 ประเทศ และไทยไม่เหมือนสมัยต้มยำกุ้ง ชื่อเสียงการเงินของเราอยู่ในระดับท็อปของโลก”

แนะใช้คนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนประเทศ

ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้มุมมองในเรื่องของการสร้างอนาคตที่มั่นคงของประเทศโดยมองว่า คนรุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก โลกยุคปัจจุบันข้อมูลมีมหาศาล ข้อมูลต่อไปจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก เมื่อรวบรวมข้อมูลแล้วต้องมีเอไอมาวิเคราะห์ข้อมูล ทุกอย่างต้องเร็ว ซึ่งหมายถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ ต่อไปธุรกิจหุ่นยนต์จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล ธุรกิจโดรน ก็กำลังเติบโตจึงฝากนักธุรกิจให้นำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเพิ่มผลผลิต เทคโนโลยีการบริหารจัดการใช้ IOT (Internet of Thing) จะทำให้มีกองทุนมาสนับสนุน น่าจะมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยชี้แนะ เอาคนที่ประสบความสำเร็จมาแนะนำให้นักธุรกิจไทย ที่สำคัญ คือ ผู้ผลิตที่ถือเป็นธุรกิจตัวหนักของชาติ ต้องมองว่าหมดยุคค่าแรงถูกแล้ว เมื่อค่าแรงสูงขึ้นใช้ไฮเทคมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มเงินเดือนให้กับพนักงาน

เจ้าสัว “ธนินท์” หนุนรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดึงต่างชาติมาลงทุนอย่ากลัวถูกแย่งงาน

ส่วนประเด็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ที่เคยเป็นปัญหาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกวิจารณ์ว่าขายชาติเมื่อจะผ่อนคลายกฎระเบียบให้ต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินได้ นายธนินท์ มองมุมต่างว่า ที่จริงคนไม่เข้าใจมากกว่า เพราะถ้ามาซื้อที่ดินก็คงเอากลับไปไม่ได้ และประเทศไทยเนื้อหอม คนเก่งๆ อยากมาอยู่เมืองไทย แต่เรากลับกลัวว่าจะมาแย่งงานคนไทยจึงสนับสนุนให้ดึงนักธุรกิจระดับท็อปด้านไฮเทคมาเมืองไทย โดยที่รัฐบาลต้องเอื้อความสะดวกให้มีกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุน ยกตัวอย่างดูไบที่เก่งที่สุด ดึงคนเก่ง ดึงเศรษฐี ไปใช้ชีวิตที่ดูไบ จนคนดูไบน้อยกว่าคนต่างประเทศ

”ควรดึงคนเก่งในโลกนี้มาช่วยประเทศไทยพัฒนา ถ้าหากฎหมายดีๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยและประชาชน มองว่าวิกฤตของโลกเป็นโอกาสของไทย ดูแล้วที่นี่ปลอดภัยที่สุด อุดมสมบูรณ์ กำลังเติบโต“

เสนอลดวันทำงานเหลือสัปดาห์ละ 4 วัน

อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจของนักธุรกิจอาวุโส อย่างเจ้าสัวธนินท์ คือ การลดเวลาทำงาน อาจจะเหลือสัปดาห์ละ 3-4 วันเพื่อเปิดโอกาสให้คนไปท่องเที่ยว เพราะผู้คนสามารถทำงานไปท่องเที่ยวไปได้ และ การเดินทางท่องเที่ยวดูงาน เปรียบเหมือนการได้ไปดูสถานที่จริง ได้ฟัง ได้เห็น ได้สัมผัส ทำให้เข้าใจลึกซึ้งและจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ยิ่งลดวันทำงานจะมีธุรกิจที่ทำรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอีกมาก พร้อมกับฝากถึงนักธุรกิจ ไม่ต้องห่วง ยิ่งออนไลน์ซื้อขายมากเท่าไร ยิ่งต้องการเราเป็นผู้ผลิตต่อเนื่องไปยังโลจิสติกส์ หีบห่อ