รันคิวแท็กซี่ งานเล็กๆ ที่สร้างความประทับใจยิ่งใหญ่

ธิติยา แสงจันทร์ เจ้าหน้าที่จุดบริการเรียกแท็กซี่ประตูทางออก 7 ไอคอนสยาม ได้รับประกาศนียบัตร บัตรของขวัญ 'ทำดี มีชม' และคูปองรับประทานอาหารฟรีที่สุขสยามเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่การทำหน้าที่ของเธอได้รับการชื่นชมจากผู้ใช้ Tiktok ชื่อ แพรรี่ ลี (@pearriepai) และถูกแชร์ออกไปจนกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์

"ทุกคนอาจจะไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่ฉันรู้สึกว่าการมีคนช่วยในการหาแท็กซี่ให้ในกรุงเทพฯ แล้วเขาก็เข้าใจหัวอกเรา เขาแบบยินดีจะทำ...มีการสู้เพื่อลูกค้า สู้เพื่อนักท่องเที่ยว...พี่คนนี้คือแกนหลัก แกนหัวใจแห่ง เวลคัม ทู ไทยแลนด์...ฉันประทับใจพี่เขามาก" แพรรี่ ลี กล่าว

ธิติยา หรือ นิ้ง อายุ 23 ปี เธอทำงานคู่กับ 'แหม่ม' อำนวยความสะดวกลูกค้าที่ต้องการเดินทางออกจากไอคอนสยามด้วยแท็กซี่ บริเวณประตูหน้า Seven-Eleven โดยเข้าเวรประมาณ 11.00-23.00 น. สลับกัน 2 ทีม หน้าที่ของพวกเธอเริ่มจากเปิดเครื่องรันคิว และให้ลูกค้าที่จะใช้บริการรถแท็กซี่สแกนคิวและนั่งรอ จากนั้นพวกเธอก็จะถามจุดหมายของลูกค้าคิวล่าสุด เรียกแท็กซี่ที่อยู่ในคิวให้ไปส่งตามจุดหมายและกดมิเตอร์ และบันทึกข้อมูลผู้โดยสารพร้อมทะเบียนรถลงในระบบผ่านไอแพด

ลูกค้าต้องนั่งแท็กซี่ที่ปลอดภัยและราคาเป็นธรรม

เธอบอกว่าความท้าทายของหน้าที่นี้คือ การใช้ภาษา เพราะต้องเจอกันนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติและหลากหลายภาษา โดยส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเกาหลี ฯลฯ ความท้าทายต่อมาคือการจัดการอารมณ์ เธอต้องใช้ความอดทนและภาษาที่สุภาพต่อลูกค้าและคนขับรถแท็กซี่ในช่วงเวลาที่ทุกคนเร่งรีบ รวมทั้งแท็กซี่ที่ปฏิเสธลูกค้า หรือไม่กดมิเตอร์ บางครั้งก็จะอารมณ์เสียใส่เธอ แม้จะไม่พอใจ แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์และพูดไปด้วยภาษาที่สุภาพว่า "ถ้าไม่ไป กรุณาไปวนรถมาก่อนนะคะ"

เพราะเป้าหมายของเธอคือการทำให้ลูกค้าเดินทางกลับบ้านด้วยความสะดวกสบาย หมุดหมายถูกต้อง ปลอดภัยและราคาเป็นธรรมตามมิเตอร์

เธอยกตัวอย่างเหตุการณ์ว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่งมารอรถแท็กซี่ สามีเป็นชาวต่างชาติ ส่วนภรรยาเป็นคนไทย แต่รถปฏิเสธลูกค้าไป 5 คัน รอรถอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งเธอก็พยายามคุยเล่นกับลูกค้าเพื่อให้พวกเขาไม่เบื่อ ขณะที่เรียกรถไปด้วย จนสุดท้ายก็มีรถที่รับลูกค้าและกดมิเตอร์ ทำให้ลูกค้าดีใจจนถึงกับร้อง "เย้" เสียงดังขึ้นมาและลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติก็หันกลับมาพูดกับเธอว่า "ขอบคุณครับ" เป็นภาษาไทย เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก

เธอมองว่า ถ้าแท็กซี่บริการดี คนทำงานบริการด้วยหัวใจ นักท่องเที่ยวก็จะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกมากมาย เพราะหากลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราไปอยู่ต่างประเทศก็ไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกัน ถ้าเราสามารถเดินทางได้สะดวกสบายและปลอดภัย เราก็จะอยากกลับมาเที่ยวที่นั่นอีก

ทำทุกวันอย่างมีเป้าหมาย ไม่เคยอายกับงานที่ทำ

นิ้ง เล่าว่า เธอต้องย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษกับแม่ตั้งแต่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และไปเข้าเรียนต่อที่โน่นจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แต่ก็ต้องมีเหตุให้ย้ายกลับมาประเทศไทยและไม่ได้กลับไปอีก เธอจึงต้องใช้วุฒิการศึกษา ป.6 ไปสมัครงาน ช่วงแรกทำงานโรงงานผลิตขวดแก้ว ซึ่งงานค่อนข้างหนักและมีเวลาพักผ่อนน้อย จึงมาสมัครงานที่ไอคอนสยาม และได้รับโอกาสให้มาทำงานที่จุดบริการแท็กซี่

แม้งานส่วนใหญ่จะต้องยืนและเดิน แต่เธอก็รู้สึกสนุกไปกับงาน เพราะได้ใช้ทักษะภาษาและการสื่อสาร เหมือนกับได้เรียนภาษาไปในตัว อีกทั้งงานนี้ทำให้เธอได้เจอและพูดคุยกับผู้คนหลากหลาย ไม่น่าเบื่อ และเมื่อเราตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ความสุขของลูกค้าที่ได้รถกลับบ้าน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็ทำให้เธอมีความสุขด้วยเช่นกัน

เธอบอกว่า วันที่มีคนแชร์เรื่องการทำงานของเธอจนกลายเป็นไวรัลก็ไม่ได้รู้มาก่อน จนเลิกงาน ได้อ่านไลน์ก็ดีใจมาก โทรหาแม่และน้า แม่ก็บอกสั้นๆ ว่า "ดี ทำดีต่อไปนะลูก" บวกกับบริษัทให้รางวัล 'ทำดี มีชม' กับเธอ ซึ่งเธอก็ไม่เคยได้รับมาก่อน มันทำให้เธอรู้สึกภูมิใจ และมีกำลังใจทำงานขึ้นมาก แม้เธอจะไม่มีโอกาสได้เรียนสูงๆ เหมือนคนอื่น แต่เธอมองว่า คุณค่าของการทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษา แต่มันอยู่กับการที่เราทำงาน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดต่างหาก

"หนูภูมิใจในสิ่งที่หนูทำไปแล้วรู้สึกว่ามีความสุข ทำให้ต่างชาติเห็นว่าเมืองไทยก็มีอะไรดีๆ เหมือนกัน แท็กซี่บริการดีก็มี อยากให้มาเที่ยวแบบว่าสนุกสนาน เมืองไทยมีที่ท่องเที่ยวมากมาย หนูรักในหน้าที่การงานของหนู รักในงานบริการของหนู หนูรัก หนูทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด" ธิติยา กล่าว

รับชมเพิ่มเติม: